ด่วน เคาะแล้ว "คนละครึ่งพลัส" ลงทะเบียนไม่เกินกลางตุลาคม 2568 เงินเข้ากระเป๋า 29 ตุลาคม 2568

นายกฯ เผย "คนละครึ่งพลัส" เข้าครม.สัปดาห์หน้า ลงทะเบียนไม่เกินกลางตุลาคม 2568
"นายอนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เตรียมจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ทุกบ่ายวันจันทร์ ซึ่งน่าจะเริ่มครั้งแรกได้ภายใน 2 สัปดาห์ และวันนี้ถือว่าเป็นวันแรกที่รัฐมนตรีสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มรูปแบบ เพราะผ่านการแถลงนโยบายมาแล้ว ซึ่งวันนี้ให้รัฐมนตรีได้เข้าไปทำงานในแต่ละกระทรวง พบข้าราชการเพื่อ มอบนโยบายและจะมีการเชิญประชุมเป็นกลุ่ม ๆ
นอกจากนั้น ในสัปดาห์หน้า จะมีการนำหลักการของโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเปิดให้มีการลงทะเบียนได้ไม่เกินกลางเดือนตุลาคม 2568 นี้ ซึ่งในการประชุมครม.วานนี้ ได้แยกงบประมาณปี 69 ไว้ใช้สำหรับโครงการนี้ เพื่อเร่งขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับงานแรกที่รัฐบาลจะเริ่มลงมือทำคือ โดยงานแรกที่จะผลักดัน คือปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา จะเร่งให้การสนับสนุนในทุกภาคส่วน หลังจากวานนี้ (30 กันยายน 2568) ได้แถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จสิ้น ก็ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในทันที และอนุมัติงบกลางให้กองทัพ จัดเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งไม่ได้ล่าช้า โดยได้อนุมัติงบกลาง 864 ล้านบาท ให้กับกองทัพ เพื่อให้เสริมสร้างความแข็งแกร่งในการปกป้องอธิปไตยของบ้านเมือง และจะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติในวันพรุ่งนี้ (2 ตุลาคม 2568)
นอกจากเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว ยังอนุมัติงบต่าง ๆ ใช้หนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อให้มีวงเงินเสริมสภาพคล่องให้เกษตรกร รวมทั้งการบริหารงาน มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มุ่งเน้นการลงพื้นที่ในเขตที่ดูแลรับผิดชอบ
“เอกนิติ” เผยเงินโครงการคนละครึ่งเข้ากระเป๋า 29 ตุลาคม 2568 นี้
"นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงไทม์ไลน์ "โครงการคนละครึ่ง" ของรัฐบาลว่า ในสัปดาห์หน้าตนจะนำหลักการของโครงการนี้ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ์ ซึ่งเราจะใช้รูปแบบเดิม ที่ประชาชนคุ้นเคยอยู่แล้ว และจะสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมนี้ โดยจะมีระยะเวลาใช้ได้ 2 เดือน
ทั้งนี้อย่างที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา โครงการนี้จะเป็นพลัสใน 2 มิติ คือโครงการคนละครึ่ง ตอนนี้ โอกาสหน้าจะเป็น 200 บาทต่อวัน เพื่อทำให้ Quick Big Win สำหรับ "ควิก" คือ เร็ว สามารถนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เลยในสัปดาห์หน้า "บิ๊ก" คือ จากเดิมสมทบ 150 บาทเพิ่มเป็น 200 บาท และ "วิน" คือ ให้ประชาชนร้านค้า ซึ่งของเดิมเข้าได้ แต่ครั้งนี้พิเศษจะเพิ่มให้นิติบุคคลขนาดเล็กรายย่อยเข้าได้ด้วย ซึ่งเกิดมาจากการที่เราได้รับฟังเสียงประชาชน ขณะเดียวกันคนที่อยู่ในระบบภาษีจะได้รู้สึกว่าได้ เงินก็จะกระจายไปสู่พ่อค้าแม่ค้า
นายเอกนิติ กล่าวถึง คนละครึ่งส่วน "พลัส" อย่างที่เราทราบอยู่แล้ว คนที่ยื่นภาษีในระบบจะได้เงินมากกว่า 2,400 บาท ซึ่งมากกว่าเพราะเงินนี้มาจากผู้ที่เสียภาษีประชาชน ซึ่งจะทำให้คนที่เสียภาษีรู้ว่าการเสียภาษีก็มีประโยชน์ และทำให้เราจะได้เห็นหลักการปฏิรูประบบการคลัง สุดท้ายเป็นเรื่องของพลัสที่เกี่ยวกับการพัฒนาทักษะ ให้คนไทยพ่อค้าแม่ค้า ได้รู้จักดิจิทัล รวมไปถึง E-commerce ระบบบัญชี ซึ่งเป็นการยกระดับความสามารถ
ส่วนกรณีมีคำถามว่าข้อจำกัดระยะเวลาเพียงสั้นๆ จะเป็นแรงส่งให้กับระบบเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด นายเอกนิติกล่าวว่า เราออกแบบแรงส่งมา 2 รูปแบบ โดยจะเห็นได้ว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ได้อนุมัติบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ด้วยการเติมเงิน เพิ่มเข้าไป 1,700 บาทจากเดิมที่ได้ 300 บาทรวมเป็น 2000 บาท ให้กับคนจำนวน 13.4 ล้านคน เพราะคนกลุ่มนี้มีรายได้น้อยไม่มีเงินไปสมทบ จึงทำให้ได้สิทธิ์เหมือนกับโครงการคนละครึ่ง ส่วนผู้ที่อยู่ในโครงการคนละครึ่ง จะเป็นการช่วยลดค่าครองชีพ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
