"คลัง" ชง "คนละครึ่งพลัส" เฟส 1.5 ช่วยเติมเงินให้ร้านค้าสูงสุด 2,000 บาท

"เอกนิติ" ชง "คนละครึ่งพลัส" 1.5 เติมเงินให้ร้านค้าสูงสุด 2,000 บาท เฟส 2 คาดเริ่มใช้มกราคม 2569 

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3/2568 (ครม.เศรษฐกิจ) เสนอโครงการ “คนละครึ่ง พลัส 1.5” โดยเติมเงินให้ร้านค้าที่เข้าร่วมการอบรมเพิ่มทักษะการขายออนไลน์ ซึ่งรัฐบาลจะเติมเงินให้ 10-20% ไม่เกิน 2,000 บาท ภายหลังการเข้าร่วมอบรม เพื่อช่วยยกระดับร้านค้าให้มีความสามารถทางดิจิทัลมากขึ้น

โดยระบุว่า ที่ผ่านมาโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” จะเน้นการให้เงินกับฝั่งผู้ใช้ แต่ครั้งนี้จะเพิ่มส่วนของการพัฒนาทักษะให้กับฝั่งร้านค้า โดยส่งเสริมให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสามารถขายของได้เก่งขึ้นทางออนไลน์ เพิ่มทักษะด้านการทำบัญชีดิจิทัล และการใช้เทคโนโลยีเอไอ (AI) ทั้งนี้ จะมีการนำเงินบางส่วนจากงบประมาณที่เหลือจากเฟสแรกมาสนับสนุนการเพิ่มทักษะดังกล่าว

นายเอกนิติ กล่าว แนวคิดของ “คนละครึ่ง พลัส” คือ ไม่เพียงกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังต้องการสร้างผลลัพธ์ระยะยาวด้วยการพัฒนาให้พ่อค้าแม่ค้าเก่งขึ้น มีหลักสูตรสอนขายของออนไลน์ การลดต้นทุนด้วยระบบบัญชี และการใช้เอไอช่วยดำเนินธุรกิจ

นอกจากนี้ นายเอกนิติ กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ช่วงเช้า โดยวาระที่สำคัญ จะพิจารณา โครงการ “Thailand FastPass” เพื่อให้นักลงทุนที่ได้รับใบอนุญาต ของส่งเสริมการลงทุนแล้ว ซึ่งมีอยู่ราว 4.7 แสนล้านบาท ให้เกิดการลงทุนจริงได้เร็วขึ้น โดยจะมีการสอบถามภาคเอกชน ว่าติดปัญหาอุปสรรคด้านใดอยู่บ้าง ส่วนการพิจารณาอนุญาตลงทุนใหม่ในวันนี้ จะพิจารณาการลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์ ที่เข้ามาลงทุนค่อนข้างมาก

"คนละครึ่งพลัส" เฟส 2 คาดใช้จ่ายมกราคม 2569

ส่วนความคืบหน้า "คนละครึ่ง พลัส" เฟส 2 ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในช่วงจากนี้ไปถึงมีการเลือกตั้งใหม่ ประกอบด้วย โครงการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 ที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนธันวาคมนี้ และเริ่มใช้ภายในเดือนมกราคม 2569 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอดูจำนวนคนที่จะได้รับสิทธิและวงเงินงบประมาณที่จะนำมาดำเนินโครงการ ในเบื้องต้นจะพิจารณาให้สิทธิคนที่ไม่ได้รับสิทธิเฟสแรกก่อน ขณะที่คนที่ได้เฟสแรกไปแล้วจะได้รับสิทธิเพิ่มด้วย โดยทั้งเฟส 1 และเฟส 2 จะได้รับเงินเท่าๆ กัน

โดยนายสิริพงศ์ ระบุว่า ยกตัวอย่างเช่น รัฐบาลประกาศให้คนละ 3,000 บาท คนที่ไม่ได้สิทธิเฟสแรก จะได้ 3,000 บาท ส่วนคนที่ได้เฟสแรกไปแล้ว 2,000-2,400 บาท จะได้เงินเติมให้ครบวงเงิน 3,000 บาท เป็นเพียงแนวคิด ยังไม่มีข้อสรุป ส่วนเกณฑ์การใช้และร้านค้ายังเหมือนเดิมกับเฟสแรก ยังไม่มีการขยายไปยังร้านค้าขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องการให้มีเงินหมุนเข้าสู่ระบบร้านค้ารายเล็ก ขณะที่ร้านใหญ่ๆ แม้จะไม่ได้ทางตรงก็ยังได้ทางอ้อม 

"คลัง" เตือนประชาชน 5 แสนราย จ่อโดนตัดสิทธิ "คนละครึ่งพลัส" ย้ำใช้วันสุดท้ายพรุ่งนี้ 11 พ.ย.68

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขอเน้นย้ำเตือนประชาชนที่ได้สิทธิคนละครึ่งพลัส จะต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย.68 ก่อนเวลา 23.00 น. ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิออกจากโครงการฯ นอกจากนี้ ขอประชาสัมพันธ์ถึงร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีร้านค้าที่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้ามากดปุ่ม ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข ของโครงการคนละครึ่งพลัส ในแอปพลิเคชัน ถุงเงิน อีกหลายหมื่นราย ทำให้ยังไม่สามารถเริ่มต้นรับสิทธิจากประชาชนได้

สำหรับความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง พลัส ล่าสุดมีผู้ใช้สิทธิไปแล้ว 19.43 ล้านคน เหลืออีกกว่า 5.5 แสนคนที่ยังไม่เริ่มใช้สิทธิครั้งแรก ดังนั้นจึงขอแจ้งเตือนให้ผู้ได้สิทธิอีกกว่า 5.5 แสนคน ให้รีบใช้สิทธิครั้งแรกโดยด่วน ภายในวันที่ 11 พ.ย.68 ก่อนเวลา 23.00 น. ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิออกจากโครงการทันที แต่หากเริ่มใช้ครั้งแรกไปแล้ว จะสามารถใช้สิทธิได้ต่อเนื่องไปจนถึง 31 ธ.ค.68 หรือหมดวงเงิน ส่วนสิทธิที่ถูกตัดไปนั้น กระทรวงการคลังจะรวบรวมนำไปเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟสสอง ช่วงต้นปีหน้าต่อไป

ส่วนบรรยากาศการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัส ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. จนล่าสุด 9 พ.ย.68  มีผู้ใช้จ่าย 19.43 ล้านคน ยอดใช้จ่ายกว่า 2.57 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการซื้อของผ่านร้านค้าทั่วไป 2.55 หมื่นล้านบาท ที่เหลือกว่า 221 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มฟู้ด ดิลิเวอรี่ โดยมีร้านค้าที่รับจ่ายเงินแล้ว 8.12 แสนราย  ในจำนวนเป็นร้านฟู้ด ดิลิเวอรี 57,150 ราย