รีเซต

กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์จับภาพวงแหวนของดาวยูเรนัส

กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์จับภาพวงแหวนของดาวยูเรนัส
TNN ช่อง16
18 เมษายน 2566 ( 02:44 )
113
กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์จับภาพวงแหวนของดาวยูเรนัส

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 องค์การอวกาศยุโรป (ESA) เปิดเผยภาพถ่ายดาวยูเรนัสจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (JWST) เปิดเผยภาพล่าสุดที่มีความคมชัดสูงของดาวยูเรนัส ดาวเคราะห์ยักษ์น้ำแข็งลำดับที่ 7 ในระบบสุริยะแสดงให้เห็นสีของดาวและวงแหวนรอบนอกทั้ง 11 ชั้น จากทั้งหมด 13 วง มีความสวยงามพร้อมดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสอีก 6 ดวง จากทั้งหมด 27 ดวง

ภาพถ่ายของวงแหวนดาวยูเรนัสจากปี 1986 

ภาพถ่ายดังกล่าวเป็นภาพที่น่าทึ่งและคมชัดสูงมากที่สุดมองเห็นวงแหวนของดาวนับจากยานอวกาศโอเวเจอร์ 2 ในปี 1986 และหอดูดาวเคค (Keck) ที่ใช้แลนออฟติคติคความละเอียดสูงเคยถ่ายไว้ได้


ภาพถ่ายของวงแหวนยูเรนัสจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) 

ภาพถ่ายดาวยูเรนัสภาพนี้ถ่ายโดยอุปกรณ์เอ็นไออาร์แคม (NIRCam) ของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ซึ่งเป็นกล้องถ่ายภาพในย่านรังสีอินฟราเรดช่วงใกล้ (near-infrared) ประมวลผลรวมกันระหว่างช่วงคลื่น 1.4 และ 3.0 ไมครอน แสดงในภาพเป็นสีฟ้าและสีส้มตามลำดับ ดังนั้น สีฟ้าที่แสดงในภาพนี้เป็นเพียงสีของตัวแทนข้อมูลที่ได้จากช่วงคลื่น 1.4 ไมครอน ไม่ใช่สีที่แท้จริงที่จะมองเห็นได้ในช่วงคลื่นที่ตามนุษย์มองเห็น

รายละเอียดในภาพถ่ายมองเห็นบริเวณขั้วเหนือของดาวมีลักษณะที่สว่างมากเป็นพิเศษในช่วงที่มันเอียงทำมุมเข้าหาดวงอาทิตย์ เมฆที่สว่างบนดาวยูเรนัสทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับภายุที่รุนแรงบนผิวดาว ส่วนขั้วใต้ของดาวหันหลังให้ดวงอาทิตย์ทำให้ยังคงเป็นพื้นที่ปริศนาอยู่ต่อไปบนดาวยูเรนัส


ดาวยูเรนัสมีลักษณะพิเศษใช้เวลา 84 ปี ในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ การหมุนของดาวเป็นแบบหมุนตะแคงทำมุมประมาณ 90 องศา จากระนาบวงโคจร สิ่งนี้ทำให้เกิดฤดูกาลที่รุนแรง เนื่องจากขั้วของดาวเคราะห์ได้รับแสงแดดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีตามด้วยความมืดสนิทในจำนวนปีเท่ากัน


ทีมงานนักวิทยาศาสตร์ใช้กระบวนการถ่ายภาพทั้งหมดกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ประมาณ 12 นาที และใช้ช่วงคลื่นในการประมวลผลเพียง 2 ช่วงคลื่น เท่านั้น 


สำหรับดาวยูเรนัส เป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ในระบบสุริยะ ตำแหน่งห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 1,783 ล้านกิโลเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 51,118 กิโลเมตร ดาวดวงนี้ถูกค้นพบเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 1781 โดยนักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษชื่อว่า วิลเลียม เฮอร์เชลล์ (William Herschel) ซึ่งเป็นนักดาราศาสตร์ชื่อดังในยุคนั้น


ข้อมูลและภาพจาก NASA

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง