"เราเที่ยวด้วยกัน" ไม่รู้จะใช้สิทธิที่ไหนลองไป "หลีเป๊ะ"
โครงการ"เราเที่ยวด้วยกัน" ที่รัฐบาลต้องการจะกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้มีเม็ดเงินมาหมุนเวียนในชุมชนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียด “โครงการกำลังใจ และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อให้ โครงการกำลังใจ และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้อย่างทั่วถึง โดยรายละเอียดที่ได้ปรับปรุง ได้แก่
1. อนุมัติให้เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จำนวน 570 คน และเจ้าหน้าที่หัวหน้างานสาธารณสุขมูลฐานและงานสุขภาพภาคประชาชนระดับจังหวัดและระดับอำเภอ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2,615 คน ให้สามารถเข้าร่วมโครงการกำลังใจได้
2. อนุมัติให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน สามารถใช้บริการโรงแรมที่พักและใช้ E-Voucher สำหรับค่าสนับสนุนอาหาร ค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในจังหวัดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านได้
และ 3. อนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการกำลังใจและเราเที่ยวด้วยกัน ไปถึงวันที่ 31 ม.ค. 2564
แต่ที่ผ่านมาเชื่อว่ายังมีหลายคนที่ยังไม่ได้นำสิทธิที่ลงทะเบียนไว้ไปใช้ อาจจะด้วยเรื่องของความสะดวก ยังหาเวลาเหมาะๆไม่ได้ วันนี้ TNN ONLINE จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ เราเที่ยวด้วยกัน หากไม่มีเวลาก็แนะนำเป็นทริปสั้นๆ 3 วัน 2 คืน ก็ยังพอเหมาะกับการท่องเที่ยวได้ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่จะมาแนะนำนั้นก็คือ เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
การเดินทาง
การเดินทางมายังเกาะหลีเป๊ะ เริ่มจากบินมาลงสนามบินหาดใหญ่ ซึ่งหากเราลงทะเบียน "โครงการเราเที่ยวด้วยกัน" ไว้ ก็จะประหยัดค่าเครื่องบินไปอีก เพราะ รัฐช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อคน ร่วมกับการจองห้องพัก แต่ถ้าจอง 1 ห้อง รับสิทธิ์ตั๋วเครื่องบินสูงสุดได้ 2 คน (ไปเป็นคู่) หากไปเป็นกลุ่มใช้ได้ไม่เกิน 5 สิทธิ์ หรือ 10 ตั๋วเครื่องบิน แต่จะได้คืนก็ต่อเมื่อจ่ายเงินค่าตั๋วไปเที่ยว-เดินทางมาก่อน จากนั้นเอาข้อมูลการบินไป-กลับ มายืนยันในเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
เมื่อลงเครื่องที่สนามบินหาดใหญ่ ก็ต่อรถตู้ไปท่าเรือปากบารา จ.สตูล และมาแวะรับประทานอาหารเที่ยงกันก่อน ที่ร้านฟ้าใส ร้านนี้อาหารรสชาติจัดจ้านตามสไตล์อาหารพื้นเมืองภาคใต้จริงๆ จากนั้นเราก็จะเข้าที่พักกันก่อน เพราะฟ้าฝนทำให้เราต้องไปขึ้นเรือเพื่อไปเกาะหลีเป๊ะกันพรุ่งนี้เช้า
ซึ่งที่พักคืนนี้คือ โรงแรมรอยัลฮิลล์ จ.สตูล โรงแรมนี้เข้าร่วมโครงการรัฐบาล "เราเที่ยวด้วยกัน" อีกด้วย จะมีราคาอยู่ที่ 1,799 – 2,100 บาท ถ้าใช้สิทธิตามโครงการก็จะได้ลดค่าห้องได้อีก 40% ต่อคืน สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน ไม่เกิน 5 คืนต่อคน ถ้าใช้สิทธิยังไม่ครบก็เก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้ด้วย โดยรัฐจะโอนเงินให้โรงแรมเองหลังจากที่ผู้ลงทะเบียน จอง-จ่าย เช็กเอาท์แล้ว (รวม 5,000,000 ห้องต่อคืน) ซึ่งโรงแรมตั้งอยู่บนเนินเขามองเห็นวิวทะเล บรรยากาศดีมากๆ
นั่งสปีดโบ๊ทไปหลีเป๊ะ
ตื่นเช้ามาก็ถึงเวลาที่เราจะต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปเกาะหลีเป๊ะกัน ระหว่างทางพี่ไกด์ก็จะพาเราแวะตามเกาะต่างๆเพื่อให้ถ่ายรูป ไฮไลท์ก็คือเกาะตะรุเตากับเกาะไข่ โดยเฉพาะบนเกาะไข่จะมีซุ้มรักนิรันดร์ ที่เป็นสัญลักษณ์ของ จ.สตูล ซึ่งพี่ไกด์บนเรือ เล่าให้ฟังว่าตามตำนาน ถ้าใครได้มาถ่ายรูปที่นี่ ความรักจะมั่นคงยืนยาวอีกด้วย (แต่ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)
และเมื่อมาถึงเกาะหลีเป๊ะ หาดแรกที่ทุกคนต้องเจอคือหาดพัทยา เป็นหาดที่เรือทุกลำจอดรับส่งนักท่องเที่ยว และมีรีสอร์ทติดหาดยาวไปจนสุดหาดเลย ทริปนี้เรามากันเป็นคณะใหญ่ และไม่ได้จองที่พักบนเกาะ เพียงแค่นั่งเรือมาแวะเที่ยวกับรับประทานอาหารกลางวันกันเท่านั้น เวลาก่อนอาหารก็เลยเดินเล่นชมตลาด Walking street ของเกาะหลีเป๊ะก่อน ช่วงที่ไปบรรยากาศเงียบเหงามาก แต่ก็ที่รู้ๆกันว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ได้รับผลกระทบกันไปหมด จากที่เดินสำรวจกันก็จะมีร้านค้าเปิดขายของน้อยมาก พอสอบถามจากพ่อค้าแม่ค้าที่นี่ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดขายแทบไม่มีเลย
ดำน้ำเกาะต่างๆ
เมื่อรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อย พักให้อาหารย่อยนิดหน่อย ช่วงบ่ายพี่ไกด์สปีดโบ๊ทก็พาเราไปดำน้ำตามเกาะต่างๆต่อ แต่เนื่องจากช่วงที่เราไปมีพายุเข้า ก็เลยสามารถลงดำน้ำได้แค่บางเกาะเท่าที่จะแวะได้ ถือว่าได้นั่งเรือชมวิวสัมผัสบรรยากาศทะเลๆ แต่ก็แนะนำว่าหากมาช่วง Low Season ควรมาดำนำช่วงเช้าจะดีกว่าเพื่อเลี่ยงฝน เพราะฝนมักจะตกกลางทะเลในช่วงบ่าย จะได้ไม่เสียเที่ยวอดดำน้ำดูปะการัง
ขึ้นฝั่งไปหาดใหญ่
เมื่อเสร็จจากกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง เราก็ขึ้นฝั่งมาเปลี่ยนเสื้อผ้า และออกเดินทางต่อไปยังตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อนอนพักที่หาดใหญ่ก่อนขึ้นเครื่องกลับ กรุงเทพฯกัน
เที่ยวตลาดซื้อของฝาก
ตื่นเช้ามาก็เตรียมพร้อมสัมภาระ เช็คเอาท์กันเลย จากนั้นก็แวะช้อปปิ้งที่ตลาดกิมหยงในตัวเมืองหาดใหญ่ก่อนที่จะไปขึ้นเครื่อง ซึ่งตลาดกิมหยังก็จะเป็นแหล่งรวมของฝาก ทั้งของขึ้นชื่อประจำจังหวัด ของพื้นเมือง ผลไม้ ของแห้งต่างๆ ถือเป็นการกระจายรายได้ให้ท้องถิ่น ตรงตามเป้าหมายของรัฐบาลที่อยากให้มีเม็ดเงินมาหมุนเวียนตามแหล่งท่องเที่ยว
แวะไหว้พระวัดเจดีย์เหล็กก่อนกลับ
และที่สุดท้ายของทริป นั่นก็คือวัดเจดีย์เหล็ก วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินที่สำคัญอีกแห่ง ที่ถ้ามาสงขลา จะต้องมาแวะไหว้พระ ทำบุญที่นี่ก่อนกลับ ด้านในจะมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ให้เราได้กราบสักการะ อีกทั้งสถาปัตยกรรมและการตกแต่งก็สวยงาม ถ้าไม่แวะมาถือว่ามาไม่ถึง
พร้อมกลับกทม.
ขากลับก่อนขึ้นเครื่อง ก็จะต้องแวะช้อปอีกหน่อย เพราะของขึ้นชื่ออีกอย่างของที่นี่ก็คือ มะม่วงเบา ที่จะมีขายในสนามบินหาดใหญ่เท่านั้น หลังจากนั้นก็ไปขึ้นเครื่อง เดินทางกลับกทม.โดยสวัสดิภาพ
ใครที่ยังตัดสินใจเลือกจองที่พักที่เที่ยวไม่ได้ ยังมีเวลาไปใช้สิทธิ เพราะรัฐได้ขยายระยะเวลาโครงการออกไปอีก จนถึงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้าเลย เพราะฉะนั้นวันหยุดยาวที่รัฐบาลประกาศออกมาเพิ่มนี้ น่าจะเป็นจังหวะที่ดีในการออกไปใช้สิทธิท่องเที่ยว กระตุ้นรายได้ในประเทศช่วยกัน
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE