รีเซต

INVX แนะกลยุทธ์ลงทุนจากมุมมอง 10 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

INVX แนะกลยุทธ์ลงทุนจากมุมมอง 10 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
ทันหุ้น
16 กันยายน 2567 ( 17:05 )
15
INVX แนะกลยุทธ์ลงทุนจากมุมมอง 10 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

 

#หุ้นเด่น #ทันหุ้น - INVX มองแจกเงิน 10,000 กลุ่มเปราะบาง ส่งผลดีมากสุดต่อหุ้นกลุ่มพาณิชย์-สินค้าอุปโภคบริโภค แนะนำ CPAXT, CPALL, HMPRO, TNP, OS และ CBG

 

บทวิเคราะห์ โดย บล.อินโนเวสท์เอกซ์

กลยุทธ์ลงทุนจากมุมมอง 10 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลใหม่

 

• จากการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ต่อรัฐสภา ซึ่่งมีสาระสําคัญของ 10 นโยบายเร่งด่วนที่จะดําเนินการทันที โดยเน้นเร่งสร้างโอกาสและความเสมอ ภาคทางเศรษฐกิจ ด้วยการเร่งผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้และโครงสร้างภาษี ลดรายจ่ายค่าครองชีพ (ลดค่าพลังงานและสาธารณูปโภค) ดูแล SMEs เพิ่มรายได้ใหม่ ยกระดับเกษตรให้ทันสมัย ส่งเสริมการท่องเที่ยว แก้ไขปัญหาความมั่นคงของสังคม (ปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม) รวมทั้ง ผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น เรามองว่าสอดคล้องกับที่อดีตนายกฯ ทักษิณได้แสดงวิสัยทัศน์ในงาน Vision for Thailand 2024 เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีประเด็นสําคัญ คือ ต้องการเพิ่มอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มสภาพคล่อง (กําลังซื้อ) และลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม และสร้างความเชื่อมันเพื่อดึงเงินทุนจากต่างชาติกลับมาไทย

 

• เรามีมุมมองเชิงบวกต่อนโยบายเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับแต่ละอุตสาหกรรมและ บจ. ใน ตลท. โดยมองนโยบายที่เกิดขึ้นได้เร็ว ได้แก่ 1) การเดินหน้าแจก เงินสดให้แก่กลุ่มเปราะบางวงเงิน 1.45 แสนลบ. ในเดือน ก.ย. นี้ เพื่อเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ 2) การปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือน ซึ่งคาดจะมีการเดินหน้า ประสานนโยบายเศรษฐกิจระหว่างคลังและ ธปท. ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันเพิ่มขึ้น ทําให้มีโอกาสนโยบายการเงินจะผ่อนคลายมากขึ้น และ 3) ส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการปรับโครงสร้างการตรวจลงตราทั้งหมดของประเทศเพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่า อย่างไรก็ตามในส่วนของการ ลดราคาพลังงานยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามในส่วนกฎหมายพลังงานใหม่ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อผู้ประกอบการ ส่วนการเจรจาพื้นที่ทับซ้อน ไทยกัมพูชา เป็นประเด็นบวกในระยะยาว เนื่องจากต้องใช้ในการสํารวจและพัฒนาอย่างน้อย 10 ปี

 

กลยุทธ์ลงทุนช่วงสั้น : เรายังคงมีมุมมองบวกต่อ SET และเศรษฐกิจไทย หลังการเมืองไทยมีเสถียรภาพชัดเจนมากขึ้นซึ่งในระยะถัดไปคาดว่ารัฐบาลจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกภาคส่วน โดยมองนโบบายที่คาดจะเห็นผลในระยะสั้น คือ 1) การแจกเงินสด 1 หมื่นบาทให้กลุ่มเปราะบางในเดือน ก.ย. นี้ และการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนจะช่วยเพิ่มกําลังซื้อและหนุนบรรยากาศจับจ่ายใช้สอย จึงเป็นบวกมากสุดต่อกลุ่มพาณิชย์และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ CPAXT,CPALL,HMPRO, TNP, OSP, CBG และ 2) การส่งเสริมการท่องเที่ยว จะทําให้มีจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น จึงเป็นบวกมากสุดต่อกลุ่มท่องเที่ยวได้แก่ AWC MINT AOT LHHOTEL

 

• ส่วนนโยบายที่เหลือคาดเป็นโอกาสส่งผลบวกในระยะยาว ซึ่งเรายังให้น้ำหนักน้อย เนื่องจากต้องมีการศึกษาเจรจาเพิ่มเติม

มุมมอง 10นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลใหม่ที่มีต่ออุตสาหกรรม

 

1. ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อบ้านและรถยนต์

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและหุ้นเด่น : กลุ่มธนาคาร BBL KTB, กลุ่มบริหารหนี้ BAM, กลุ่มยานยนต์ : หากคุณภาพผู้กู้ที่จะดีขึ้น จะส่งผลให้ความเข้มงวดของปล่อยสินเชื่อรถยนต์มีความผ่อนคลายและยอดขายรถยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น ไม่มีหุ้นเด่น, กลุ่มค้าปลีก: เพิ่มกําลังซื้อ CPALL CPAXT HMPRO TNP

 

2. ส่งเสริมปกป้องผลประโยชน์ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SME จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของคู่แข่งทางการค้าต่างชาติ

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและหุ้นเด่น : กลุ่มธนาคาร BBL KTB

 

3. ออกมาตรการลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค ควบคู่การออกกฎหมาย, ระเบียบที่เกี่ยวข้อง หาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม (OCA) และ ค่าโดยสารรถสาธารณะราคาเดียว

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและหุ้นเด่น : กลุ่มพลังงาน: ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากมาตรควบคุมราคาพลังงานส่วนการเจรจากับกัมพูชาในพื้นที่ทับซ้อน (OCA) จะทําให้การผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยสูงขึ้น (PTTEP) และทําให้มีก๊าซเข้าโรงแยกก๊าซ (PTT) และโรงงานปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น (PTTGC) หุ้นเด่น PTT PTTEP PTTGC, กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF GPSC, กลุ่มขนส่ง BTS BEM BTSGIF

 

4. สร้างรายได้ใหม่นําเศรษฐกิจนอกระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษีเพื่อจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและหุ้นเด่น : กลุ่มโรงพยาบาล: เพิ่มและพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์ของทางภาครัฐ แต่ไม่น่ามีผลกระทบอย่างเป็นนัยยะสําคัญต่อกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน BDMS

 

5. กระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยให้ความสําคัญกลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรก

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและหุ้นเด่น : กลุ่มค้าปลีก: จากการที่ไม่มีข้อจํากัดประเภทสินค้า ประเภทร้านค้า และแหล่งที่ตั้งร้านค้า ทําให้ทุกบริษัทในกลุ่มจะได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายภายใต้มาตรการ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกําลังซื้อและบรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยให้ดีขึ้น CPALL CPAXT HMPRO, กลุ่มสื่อโฆษณา ONEE, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม CBG OSP

 

6. ยกระดับการทําเกษตรดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและหุ้นเด่น : กลุ่มอาหาร: เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการดําเนินงาน CPF TU

 

7. ส่งเสริมการท่องเที่ยว ปรับโครงสร้างการตรวจลงตราทั้งหมดของประเทศเพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่า สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex)

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและหุ้นเด่น : กลุ่มท่องเที่ยว: จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) จะเป็นปัจจัยเพื่อการเติบโตในระยะยาว AWC MINT AOT LHHOTEL, กลุ่มขนส่ง: จํานวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น BTS

 

8. แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร

 

9. เร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ

 

10. ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคม

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง