BAFSยอดเติมน้ำมันโตต่อ พร้อมลุยชิงสัมปทานAOT
#BAFS #ทันหุ้น - BAFS ผลงานเริ่มฟื้นตัว มั่นใจปี 2568 ปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานทเพิ่มขึ้น 5,400 ล้านลิตร และมีปริมาณขนส่งน้ำมันทางท่ออยู่ที่ 1,250-1,300 ล้านลิตร เตรียมดำเนินการสร้างท่อเชื่อมจากสระบุรีไปภาคเหนือ ในช่วงเดือนมกราคมนี้ โบรกมองกำไร 307 ล้านบาท ให้เป้าหมายราคา 20 บาท
นายจักรสนิท กฤษสอาดใจ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงินกลุ่มบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ผู้ให้บริการระบบจัดเก็บ และเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ภาพรวมธุรกิจปี 2567 เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวจากช่วงโควิด-19 ปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานที่ 5,045 ล้านลิตร เติบโต17% ตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว ซึ่งไตรมาส 4/2567 เป็นช่วง High Season ขณะที่มีปริมาณขนส่งน้ำมันทางท่ออยู่ที่ 1,200 ล้านลิตร เติบโต 43%
*วางเป้าเติมน้ำมันโต 8%
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจปี 2568 ตั้งเป้าหมายปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานที่ 5,400 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 8% ขณะที่ปริมาณขนส่งน้ำมันทางท่ออยู่ที่ 1,250-1,300 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 8% เนื่องจากได้จัดส่งน้ำมันตรงต้นทาง ขึ้นไปภาคเหนือหมดแล้ว ซึ่งตอนนี้เตรียมก่อสร้างท่อจากคลังน้ำมันสระบุรีไปภาคเหนือ ในช่วงเดือนมกราคม 2568 ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในโตรมาส 4/2569 ส่งผลให้จะมีปริมาณขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้น 1,000-1,300 ล้านลิตร
ขณะที่บริษัทวางงบลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยจะเน้นลงทุนในการเชื่อมต่อท่อขนส่งน้ำมันเป็นหลัก 800-900 ล้านบาท เพื่อเชื่อมท่อจากมาบตาพุด ศรีราชา ไปสระบุรี และที่เหลือจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้เตรียมความพร้อมสำหรับอุตสาหกรรมการบินในอนาคต ซึ่งองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กำหนดให้เครื่องบินพาณิชย์ต้องเติมน้ำมันอากาศยานยังยืน Sustainable Aviation Fuel (SAF) ในสัดส่วนราว 75% ภายในปี 2593 โดยให้เริ่มเติมน้ำมัน Jet A-1 ที่มี SAF เป็นส่วนผสมในอัตรา 2% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป หวังเป็นการต่อยอดธุรกิจอีกทาง
*ประมูลสัมปทาน
รวมถึงยังคงขยายการเติบโต ต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านธุรกิจบริการพลังงานอย่างยังยืน โดยมีแผนขยายการ COD พลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในอนาคต
อย่างไรก็ดีบริษัทมีความมั่นใจในการเตรียมเข้าประมูลสัมปทานเติมน้ำมันอากาศยานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งจะหมดอายุปี 2569 คาดว่า AOT อยู่ระหว่างพิจารณาต่อสัญญา เนื่องจากบริษัทจะมีฐานลูกค้าเดิม และยังได้มีการปรับปรุงกระบวนการเติมน้ำมันมากขึ้น ยกระดับการบริการลูกค้า (Service Leve) ให้เป็นระดับ 2 จากเดิมที่ทำได้ระดับ 1 รวมถึงกระบวนการออกตัวเติมน้ำมันมีการปรับปรุงและลงทุนระบบใหม่ การใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล Blockchain ในการที่ให้บริษัทน้ำมันขอภาษีได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทคู่แข่งยังไม่มีใครสามารถให้บริการในระดับนี้ได้
*เคาะเป้าหมาย 20 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง BAFS ว่า ประเมินกำไรปกติจะโต YoY, QoQ หนุนโดย High Season และการขยายรันเวย์ 3 แต่อาจถูกชดเชยบางส่วนจากค่าใช้จ่ายพนักงานสูงขึ้นตามฤดูกาลคงกำไรปกติปี 2567 ที่ 194 ล้านบาท และปี 2568 ที่ 307 ล้านบาท ให้คำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายปี ที่ 20 บาท