SCCปูน-วัสดุก่อสร้างฟื้น เพิ่มราคาสินค้าดันมาร์จิ้น
#SCC #ทันหุ้น –SCC มั่นใจเศรษฐกิจไทย – อาเซียนฟื้นตัวหนุนความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น ทยอยปรับเพิ่มราคาสินค้ารักษามาร์จิ้น ย้ำงบลงทุน 6.5-8.5 หมื่นล้าน เน้นลงทุนโครงการ LSP1 เพื่อให้ผลิตเชิงพาณิชย์ ปีหน้าตามกำหนด รวมถึงลงทุนธุรกิจปิโตรเคมีในทวีปยุโรปรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และดูแลงานการเงินและการลงทุน บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ, การเปิดประเทศเต็มรูปแบบของไทย และประเทศในภูมิภาคอาเซียน, และราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวในระดับสูงได้อย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยหนุนให้ความต้องการสินค้ากลุ่มปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565
บริษัทจึงยังคงคาดรายได้จากการขายทั้งปี 2565 จะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้กว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 2564 พร้อมกันนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นบริการจัดการต้นทุนพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าบางกลุ่มให้สะท้อนต้นทุนพลังงานที่เร่งตัวขึ้น ควบคู่กับมุ่งเน้นผลิตและจำหน่ายสินค้ากลุ่มนวัตกรรม เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) ให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
@ มั่นใจปิโตรเคมีเติบโต
ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโครงการปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP1) ประเทศเวียดนาม การดำเนินการคืบหน้าแล้วกว่า 93% คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในช่วงครึ่งแรกปีแรกของปี 2566 ได้ตามแผน โดยโครงการ LSP1สามารถปรับใช้พลังงานได้ทั้งแก๊ส และ แนฟทา (Naphtha) จึงสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมตามความเหมาะสม
ทั้งนี้บริษัทยังคงมั่นใจว่าความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว เนื่องจากกำลังการผลิตใหม่ที่จะทยอยออกสู่ตลาดในระยะ 3 ปีข้างหน้ายังมีน้อย กดดันจากการปรับลดแผนการลงทุนของผู้ประกอบการขนาดใหญ่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
สำหรับกรณีที่สภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ผู้ประกอบการปิโตรเคมีภายในจีนชะลอการผลิต จึงยังคงมีความต้องการผลิตภัณฑ์โพลิโอเลฟินส์ (Polyolefins) อาทิ SPP, PP อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การตลาด มุ่งเน้นตลาดที่ยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์โพลิโอเลฟินส์คุณภาพสูง อาทิ ทวีปยุโรป, แอฟริกา ฯลฯ
@ คงงบลงทุน 6.5 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทยังคงงบประมาณการลงทุนปี 2565 ไว้ระหว่าง 65,000-85,000 ล้านบาท โดยหลักๆ จะใช้ลงทุนในโครงการ Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP 1) ประเทศเวียดนาม พร้อมกันนี้ยังคงมองหาโอกาสการเติบโตผ่านการลงทุนใหม่ๆ โดยล่าสุด ได้เข้าซื้อกิจการในสัดส่วน 70% ใน Sirplaste-Sociedade Industrial de Recuperados de Plástico, S.A. (Sirplaste) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (Recycled Polymers or Post-Consumer Resin - PCR) รายใหญ่ที่สุดในประเทศโปรตุเกส โดยบริษัทมีแผนเข้าไปขยายกำลังการผลิตอีก 25% รองรับความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในทวีปยุโรป ที่คาดมีความต้องการมากถึง 3.7 ล้านตันต่อปี และเติบโตระดับ 10% ต่อไป ในอีก 5 ปีข้างหน้า