รีเซต

DOHOME ยอดขาย-กำไรลดลง บล.กสิกรฯแนะ “ถือ” เป้า 10.80 บ.

DOHOME ยอดขาย-กำไรลดลง  บล.กสิกรฯแนะ “ถือ” เป้า 10.80 บ.
ทันหุ้น
4 ตุลาคม 2567 ( 14:29 )
29
DOHOME ยอดขาย-กำไรลดลง  บล.กสิกรฯแนะ “ถือ” เป้า 10.80 บ.

 

#DOHOME #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย


บล.กสิกรไทยวิเคราะห์หุ้น DOHOME ระบุว่า คาดกำไรไตรมาส 3/67 จะลดลง YoY และ QoQ

SSSG ไตรมาส 3/67ติดลบน้อยลงเป็น -4-5% โดยได้แรงหนุนจาก SSSG ที่ +4-6% สำหรับยอดขาย back-office ซึ่งช่วยชดเชยกับ SSSG ที่ติดลบในยอดขายในร้านที่ -7-9%แม้ว่าจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นในเดือนก.ย.ประมาณการกำไรไตรมาส 3/67อยู่ที่ 84ลบ. (-7.2% YoY,-56% QoQ) จาก SSSG ที่ติดลบและ GPM ที่ลดลง และอัตราส่วน SGA ต่อรายได้ที่สูงขึ้น YoY

 

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ถือ" ด้วย TP ลดลงที่ 10.80บาท จาก 11.00บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดกำไรลง ในปี 2567-69 จาก SSSG และ GPM ที่ลดลงในปี 2567 และความล่าช้าในการเปิดสาขาใหม่ในปี 2568

 

Investment Topics

อัปเดตไตรมาส 3/2567การเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ DOHOME ในไตรมาส 3/2567 ลดลงในอัตราที่น้อยลงอยู่ที่ประมาณ -4.5%เมื่อเทียบกับ -5.3%ในไตรมาส 2/2567โดยได้แรงหนุนจาก SSSG ที่เป็นบวกประมาณ 4-6%สำหรับยอดขายจากช่องทางหลังบ้าน (back-office channel) ซึ่งเป็นผลมาจากการก่อสร้างโครงการภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล ในขณะที่ SSSG สำหรับยอดขายจากช่องทางในร้านค้า (in-store channels) ติดลบมากขึ้นอยู่ที่ -7-9%ในช่วงไตรมาสนี้ โดยเดือนก.ค.มี SSSG ที่ดีที่สุดที่ 2-3% จากนั้นแย่ลงในเดือนส.ค. จาก SSSG สำหรับยอดขายจากช่องทางในร้านค้าที่ติดลบอย่างมาก เนื่องปริมาณลูกค้าเข้าร้านที่ลดลงในช่วงฤดูฝน ส่วนในเด็อน ก.ย. SSSG ลดลงในอัดราที่น้อยลง MOM อยู่ที่ -5%เนื่องจากการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นจากผลของนโยบายการแจกเงินสด 10,000บาทสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ปริมาณฝนที่ลดลง และฤดูเก็บเกี่ยวในบางจังหวัดที่เริ่มต้นขึ้น

 

การดำเนินงานอ่อนแอในไตรมาส 3/2567จาก SSSG ที่ติดลบ บล.กสิกรไทยคาดยอดขายในไตรมาส 3/2567ของ DOHOME จะอยู่ที่ 7.4พันลบ. (+0.3% YoY, -7% QoQ) โดยยอดขายผลิตภัณฑ์เหล็กคาดว่าจะทรงตัวประมาณ 30-31%ขณะที่ยออดขายสินค้าตราห้างมีส่วนแบ่งประมาณ 19-20% ซึ่งใกล้เคียงกับ 19.8%ในไตรมาส 2/2567นอกจากนี้ บล.กสิกรไทยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของ DOHOME ในไตรมาส 3/2567 จะลดลง 1.4 ppt QoQ เหลือ 16.1% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงประมาณ 2 ppt ของผลิตภัณฑ์กลุ่มเหล็ก แต่จะขยายตัว 65bps YoY เนื่องจากอัตรากำไรที่สูงขึ้นประมาณ 2 ppt สำหรับยอดขายสินค้าตราห้าง ในขณะเดียวกัน อัดราส่วน SG&A ต่อรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 13.6% ในไตรมาส 3/2567 (+0.6 ppt YoY, -0.2 ppt QoQ) จากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดสาขาใหม่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้บล.กสิกรไทยจึงคาดว่ากำไรไตรมาส 3/2567 ของ DOHOME จะอยู่ที่ 84ลบ. ลดลง 7.2% YoY และ 56% QoQประมาณการกำไร 9เดือนแรกของปี 2567ของเรา คิดเป็น 76.7%ของประมาณการกำไรทั้งปี 2567อย่างไรก็ตาม บล.กสิกรไทยมองว่า SSSG ที่เป็นบวกและ GPM ที่ขยายตัวมากขึ้นในใตรมาส 4/2567จะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาเหล็กในประเทศและการฟื้นตัวของการบริโภคจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

 

ปรับปรุงประมาณการกำไรเนื่องจากกำลังชื่อในไตรมาส 3/2567อ่อนแอกว่าที่คาด บล.กสิกรไทยจึงปรับลดสมมติฐาน SSSG ในปี 2567 ลงเป็น -4% จากเดิม -3.0% และปรับลดสมมติฐาน GPM เพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไรที่ลดลงของผลิตภัณฑ์เหล็กในไตรมาส 3/2567นอกจากนี้ บล.กสิกรไทยรวมการเลื่อนเปิดสาขาใหม่ในปี 2568ที่จะเลื่อนไปอีกหนึ่งไตรมาส ซึ่งหมายความว่าสาขาใหม่จะเริ่มเปิดในช่วงต้นไตรมาส 2/2568 บล.กสิกรไทยจึงปรับลดประมาณการกำไรในปี 2567/68/69 ลง 11.1%/7.8%/2.9%เป็น 680ลบ./778ลบ./1.1พันลบ. จากการปรับปรุงประมาณการกำไรครั้งนี้ บล.กสิกรไทยคาดว่ากำไรของ DOHOME จะเติบโต 11%ในปี 2567และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 22% ในช่วงปี 2567-69

 

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมายลดลงที่ 10.80บาท เพื่อรวมการปรับลดประมาณการกำไร บล.กสิกรไทยได้ลดราคาเป้าหมายอิงวิธีกระแสเงินสดส่วนลด (DCF) ลงเหลือ 10.80บาท จาก 11.00บาท โดยใช้อัตราคิดลดที่ 6.6%ราคาเป้าหมายของคิดถึง PER ปี 2567 ที่ 44.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ในอดีตของหุ้นอยู่ 0.15SD บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ถือ"

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง