รีเซต

คนร้ายหลอกร้านทอง สูญทอง 100 บาท มูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท

คนร้ายหลอกร้านทอง สูญทอง 100 บาท มูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท
มติชน
10 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:21 )
38
คนร้ายหลอกร้านทอง สูญทอง 100 บาท มูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท

เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 10 กุมภาพันธ์ เจ้าของร้านทอง หจก.เพชรทอง ศรีรุ่งเรือง ถนนมีชัย ต.ในเมือง ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ได้เข้าแจ้งความทุกข์ กับ ร.ต.อ.กฤษณะ ธรรมจิตร รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ว่าถูกคนร้ายหลอกเอาทองไปได้ 100 บาท มูลค่า 2.9 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 12.45 น.ของวันนี้ (10 ก.พ. 65) โดยคนร้ายเป็นชาย สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าสีดำ ผมยาวสวมเสื้อเชิร์ตแขนยาวสีดำ และกางเกงขายาวสีดำ และสวมรองเท้าหนัง เข้ามาในร้านขอซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 10 บาท จำนวน 4 เส้น เป็นเงิน 1,160,000 ล้านบาท และสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท จำนวน 12 เส้น รวมเป็นสร้อยคำทองคำ 17 เส้น เป็นเงิน 1,740,000 บาท น้ำหนักรวมทั้งหมด 100 บาท เป็นเงินรวม 2.9 ล้านบาท และได้แจ้งให้เจ้าของร้านบอกว่าจะมีญาติโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของร้านให้ สักพักก็บอกว่าได้โอนเงินเข้าให้แล้ว เจ้าของร้านก็ได้โทรไปเช็คกับธนาคารฯที่ตนเองเปิดบัญชีไว้ ก็ได้รับคำตอบว่ามีเงินเข้าจริง จึงได้มอบสร้อยคอทองคำให้กับคนร้ายไป ไม่นานข้าวของร้านได้ตรวจเช็ค sms ที่โทรศัพท์ ทำให้รู้ว่าที่เงินเข้าเป็นการเข้าแบบเช็คเคลียริ่ง จึงตรวจสอบกับธนาคารอีกครั้งจึงคิดว่าน่าจะถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย

 

สำหรับชื่อเจ้าของบัญชีที่ออกเช็คนั้นชื่อ น.ส.พิชชาภา ดรณรงค์ 47 ปี บ้านเลขที่ 86/12 หมู่ 5 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนคนร้ายที่เป็นชายที่อยู่ในร้านทอง ได้เขียนชื่อให้กับเจ้าของร้านว่าชื่อสรวิทย์ ใจกระจ่าง ที่อยู่ 187/1 หมู่ 4 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งคาดว่าจะเป็นชื่อที่อยู่ปลอม


พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.45 น.วันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 65) ได้มีคนร้าย 1 คนเป็นชายไทย มาที่ร้านทอง หจก.เพชรทอง ศรีรุ่งเรือง ถนนมีชัย ต.ในเมือง ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย โดยได้แจ้งเจ้าของร้านว่าต้องการซื้อทองเพื่อนำไปแจกให้กับลูกค้าและญาติพี่น้อง และบอกว่าจะมีคนโอนเงินเข้าบัญชีเจ้าของร้าน สักพักชายคนดังกล่าวก็ได้แจ้งทางร้านว่ามีคนโอนเงินเข้าบัญชาเป็นค่าทองที่ซื้อให้กับทางร้านแล้ว เจ้าของร้านก็ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกับทางธนาคารที่ตนเปิดบัญชีไว้ ก็ได้รับแจ้งว่ามีเงินเข้าจริง 2.9 ล้านบาท ทางร้านจึงได้มอบทองคำให้กับคนร้ายไป เป็นทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 200 บาท หลังจากคนร้ายได้ทองไปแล้ว อีกประมาณ 15 นาทีเจ้าของร้านก็ได้ตรวจเช็ค sms ที่โทรศัพท์ ทำให้รู้ว่าที่เงินเข้าเป็นการเข้าแบบเช็คเคลียริ่ง จึงตรวจสอบกับธนาคารอีกครั้งจึงคิดว่าน่าจะถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย

 

 

สำหรับความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายนั้น ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ชัดเจน แต่คนร้ายมีการปกปิดใบหน้า และไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากทางร้านทองฯ ไม่ได้ตรวจสอบเอกสารประจำตัว คือบัตรประชาชนของคนร้าย และคนร้ายก็ไม่ได้เปิดหน้าตนเองให้ทางร้านดู เพียงแต่เขียนชื่อซึ่งคาดว่าจะเป็นชื่อปลอมให้กับทางร้านไว้ และทางร้านก็ไม่ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ ส่วนการตรวจสอบที่ธนาคารรู้ชื่อเจ้าของบัญชีที่ออกเช็คแล้ว กำลังเร่งติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดี จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายเคยกระทำความผิดลักษณะนี้มาก่อน

ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้ฝากเตือนถึงร้านทองว่า หากมีบุคคลแปลกหน้ามาซื้อทองที่ร้าน ขอให้ทางร้านมีการตรวจสอบหลักฐานประจำตัวให้ชัดเจน โดยเฉพาะบัตรประชา ชน และขอให้เปิดใบหน้าให้กับทางร้านได้ดู เพราะมิจฉาชีพอาจจะใช้วิธีช่องว่างแบบนี้ทางเป็นเงินมูลค่าสูง เลยทำให้หลงลืมหรือประมาท จนทำให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้ ส่วนการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ได้มีการใช้เทคโนโลยีในการติดตามตัว อีกทั้งได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง