เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (31 ส.ค. 2565)

เกิดการโจมตีใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซห์เซียอีก

ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุเมื่อวานนี้ (30 สิงหาคม) พื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซห์เซียในยูเครนถูกโจมตีอีกครั้ง หนึ่งวันหลังจากที่ ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA เพิ่งนำคณะผู้เชี่ยวชาญนิวเคลียร์ เดินทางถึงยูเครน และเตรียมจะเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว

ผู้นำยูเครนกล่าวหาว่า การโจมตีเมื่อวานนี้เป็นฝีมือรัสเซีย และจุดที่โจมตีเป็นเส้นทางไปโรงไฟฟ้าที่ IAEA จะใช้เดินทาง แต่ทางรัสเซียไม่ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน กรอสซีได้นำทีมผู้เชี่ยวชาญนิวเคลียร์อีก 13 คน เข้าพบประธานาธิบดีเซเลนสกี หลังจากเดินทางถึงยูเครนเมื่อช่วงสายวันจันทร์ (29 สิงหาคม) ตามเวลาท้องถิ่น หารือภารกิจของ IAEA ในการเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซห์เซีย 
ในการหารือดังกล่าว เซเลนสกีและกรอสซีย้ำความสำคัญในการส่งทีมผู้เชี่ยวชาญ IAEA เข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้าฯ ซาโปริซห์เซีย ย้ำว่า หากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว จะส่งผลกระทบไปทั่วโลก

เซเลนสกียังกล่าวแสดงความเชื่อมั่นในภารกิจของ IAEA ที่นำโดยผู้อำนวยการ IAEA เอง จะสามารถค้นหาวิธีปกป้องโรงไฟฟ้าดังกล่าว จากภัยคุกคามด้านความปลอดภัยได้ อันได้แก่ ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดเหตุร้ายที่โรงไฟฟ้า และต่อเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ซึ่งมีหลายเตา รวมถึงความเสี่ยงที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะถูกตัดจากระบบเครือข่ายไฟฟ้าของยูเครน

สำหรับภารกิจของ IAEA ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซห์เซีย คือ การตรวจสอบประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ถูกโจมตีหลายครั้งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และยืนยันว่าระบบความปลอดภัยในโรงไฟฟ้ายังทำหน้าที่ได้เป็นปกติ

รวมถึงประเมินสภาพจิตใจของเจ้าหน้าที่เทคนิคที่ควบคุมโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นชาวยูเครน ที่ต้องทำงานภายใต้แรงกดดันจากการที่รัสเซียควบคุมโรงไฟฟ้าแห่งนี้ และเริ่มใช้มาตรการความปลอดภัยเร่งด่วนเพื่อปกป้องโรงไฟฟ้านี้

รัสเซียเตรียมเปิดการซ้อมรบครั้งใหญ่ 'วอสตอค 2022' ระหว่างวันที่ 1-7 กันยายนนี้ 

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ประกาศว่า การซ้อมรบ 'วอสตอก 2022' (Vostok 2022) ทางภาคตะวันออกของประเทศ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-7 กันยายน จะมีทหารเข้าร่วมกว่า 50,000 นาย หน่วยอาวุธเคลื่อนที่มากกว่า 5,000 หน่วย เรือรบ 60 ลำ อากาศยาน 140 ลำ รวมทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล เครื่องบินลำเลียงทางทหาร และทหารพลร่ม มีหลายประเทศตอบรับเข้าร่วม ได้แก่ อดีตประเทศสมาชิกสหภาพโซเวียต จีน อินเดีย สปป.ลาว มองโกเลีย นิการากัว และซีเรีย

รัสเซีย เน้นย้ำว่า การซ้อมรบครั้งนี้คือส่วนหนึ่งของแผนการฝึกรบที่ดำเนินอย่างต่อเนื่อง แม้รัสเซียกำลัง 'ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร' ในยูเครน โดยกองทัพเรือรัสเซียและจีนจะร่วมฝึกในทะเลตะวันออกหรือทะเลญี่ปุ่น เพื่อปกป้องการสื่อสารทางทะเล กิจกรรมทางเศรษฐกิจทางทะเล และสนับสนุนหน่วยรบภาคพื้นดิน

การซ้อมรบครั้งล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในการป้องกันประเทศที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและจีน ซึ่งแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่รัสเซียส่งทหารเข้ายูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จีนปฏิเสธที่จะวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรัสเซียอย่างชัดเจน โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ เป็นผู้ยุยงหลักของสงคราม ด้วยการสนับสนุนนาโต ให้ขยายอำนาจและคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่รัสเซียได้สนับสนุนจีนอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางความตึงเครียดกับสหรัฐฯ หลังจากที่ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เยือนไต้หวันครั้งล่าสุด

ข้อมูล TNN World

ภาพ: Reuters