3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน

#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า คืนพรุ่งนี้ติดตาม CPI เดือน ธ.ค. 2567 ของสหรัฐฯ Consensus คาดจะปรับขึ้น 2.9%YoY หลังจากเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 2.7% และคาดว่า Core CPI (ไม่นับหมวดอาหารและพลังงาน) จะเพิ่มขึ้น 3.3%YoY ทรงตัวจาก พ.ย. หากเป็นไปตามคาด จะยิ่งเพิ่มน้ำหนักต่อการคงดอกเบี้ยของเฟด ล่าสุด FED Watch Tool เลื่อนคาดการณ์ลงดอกเบี้ยของเฟด เป็นเดือน ก.ย. และมีน้ำหนักเพียง 41.5% เท่านั้น

-เมื่อวานนี้ ครม. รับหลักการ พ.ร.บ. สถานบันเทิง ระยะต่อไปรอเข้าสภาฯ พิจารณา โดยอยู่ในขั้นตอนรอส่งร่างพ.ร.บ. ให้กฤษฎีกาปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับ กม. เตรียมเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร์พิจารณาภายใน 2-3 เดือน คาดเม็ดเงินลงทุนโครงการราว 1-2 แสนลบ. ผู้ลงทุนต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลไทย หรือบริษัทต่างชาติลงทุนในลักษณะกิจการร่วมค้าได้สิทธิ์ทำสัญญาเช่าระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี และกำหนดใบอนุญาตไม่เกิน 30 ปี และมีการประเมินการทำงานทุก 5 ปีบวกต่อหุ้น VGI, MAJOR, CENTEL, ERW,  AOT และ BA (ฝ่ายวิจัยไม่ได้ Cover)

-Easy E-Receipt 2.0 ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท ถึง 28 ก.พ. 68 กรมสรรพากรเดินหน้าต่อมาตรการภาษี "Easy E-Receipt 2.0" นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 ตามจำนวนที่จ่ายจริง มาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท รวมถึงการแจกเงินหมื่นเฟส 2 ที่ล่าสุด รมว.คลัง เผยถึงการแจกเงิน 1 หมื่น เฟส 2 ในกลุ่มผู้สูงอายุ คาดจะดำเนินการจ่ายเงิน เข้าบัญชี 27 ม.ค นี้ เน้นเก็งกำไรกลุ่มค้าปลีก-ท่องเที่ยวได้แก่หุ้น BJC, CRC, CPN  และ CENTEL

-ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวพยายามรีบาวน์ทดสอบแนวต้าน 1360 จุด สิ้นวันหากปิดต่ำกว่าโซน 1,350 จุด เสี่ยงถอยต่อมีโอกาสการล้างภาพ Double Bottoms รอบกลับตัว คาดกรอบบ่ายแกว่ง 1,340-1,360 จุด

-หุ้นเทคนิคเลือกหุ้น PTTGC,OR

บล.เอเอสแอล ระบุว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวผันผวน โดยในช่วงแรกปรับตัวขึ้น คาดว่าได้รับ Sentiment บวกจากมุมมองของอดีตนายกนายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้แสดงมุมมองและแนวทางการแก้ไขปัญหาตลาดทุน โดยมองว่าในปัจจุบันตลาดหุ้นไทยถูกบั่นทอนจากปัญหา Trust, Confidence, และ Sentiment แนะให้แก้ปัญหาผ่านการยกระดับธรรมาภิบาล โดยรัฐบาลและ ก.ล.ต.อาจต้องปรับกฏหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิด รวมถึงมาตรการลดภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุน 

อย่างไรก็ตามตลาดปรับตัวลง เนื่องจากประเด็น DELTA ออกหุ้นกู้แปลงสภาพไม่จ่ายดอกเบี้ย 1.8 หมื่นล้าน ราคาแปลงสภาพ 187.6 บาทต่อหุ้นไถ่ถอนปี 73 ให้บริษัทย่อยของบริษัทแม่ ทำให้ DELTA ปรับตัวลงกดดันดัชนีราว 4 จุด ปัจจัยต่างประเทศอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.805% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อคืนนี้กดดันการลงทุน 

กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีปรับตัวลงต่อสร้างจุดต่ำกว่าใหม่ ระยะสั้นยังอยู่ในแนวโน้มขาลง แนวรับทดสอบ 1,345-1,340 จุด 

บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ดัชนีรีบาวด์ตอนเปิดตลาดแต่อ่อนตัวลงกลับมาทำให้ปิดสร้างแท่งเทียนแดง โดยมีแรงขายในหุ้น DELTA และ RS ที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ขณะที่ค่าสัญญาณ MACD และ RSI ที่อ่อนตัวลงทำให้มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อ โดยช่วงบ่ายดัชนีมีแนวรับ 1,347 จุด แนวต้าน 1,360 จุด 

ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้า ดัชนีเคลื่อนไหว Sideways ออกข้าง โดยมีแรงขายนำโดยหุ้น DELTA เป็นปัจจัยกดดัน ขณะที่มีแรงซื้อนำโดยหุ้น TRUE จากคาดการณ์กำไรหลักเติบโต เป็นปัจจัยช่วยพยุงดัชนี ส่งผลให้ดัชนีพักเที่ยงปิดตลาดที่ 1,349.82 จุด ลบ 4.52 จุด หรือ 0.33% มูลค่าการซื้อขาย 32,094.34 ล้านบาท