ผู้ใหญ่บ้าน ไปเที่ยวทะเล ถอดเสื้อชูชีพกระโดดน้ำ ระหว่างเล่นเรือลาก จมหายในทะเล

เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 23 สิงหาคม ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 เพชรบุรีได้รับแจ้งว่ามีบุคคลตกน้ำและสูญหายในทะเล พื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี จึงประสานกรมเจ้าท่าและมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานพร้อมฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เมืองชะอำร่วมค้นหาผู้สูญหาย

สอบถามเบื้องต้น ทราบว่า ผู้สูญหายคือ นายสิทธิโชค พันผา อายุ ประมาณ 50 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 13 ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม

ด้านนาย บุญเลิศ เพ็งศร อายุ 45 ปี คนขับเรือลาก เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุนายสิทธิโชค ได้มาจอดรถ โตโยต้ายาริสสีขาว หมายเลขทะเบียน กล 6667 นครปฐม ไว้ที่เตียงผ้าใบหมายเลข 4 ริมชายหาดชะอำ และได้เช่าเรือลากแบบโซฟา ของตนลงไปเล่นในทะเลคนเดียว โดยมีตนเป็นผู้ขับเรือ ครั้งแรกนายสิทธิโชคขึ้นเรือใส่เสื้อชูชีพเล่นตามปกติ ต่อมาเมื่อเรือลากแล่นไปห่างจากชายฝั่งนายสิทธิโชคได้ถอดเสื้อชูชีพแล้วกระโดดลงไปในทะเล ตนเห็นจึงวนเรือกลับมา แล้วช่วยนำนายสิทธิโชคกลับขึ้นเรือ และบอกให้นายสิทธิโชคใส่เสื้อชูชีพ

จากนั้นเมื่อเห็นนายสิทธิโชคใส่เสื้อชูชีพ ตนก็หันหัวเรือเตรียมจะกลับเข้าฝั่งปรากฏว่าขับเรือออกไปได้ไม่นานตนหันกลับมาอีกครั้งก็ไม่เห็นนายสิทธิโชคแล้วเห็นเพียงเสื้อชูชีพถูกถอดวางไว้บนโซฟาลม จึงรีบวกเรือกลับมาอีกครั้งและวนหาอยู่นานกว่า 5 นาทีแต่ก็ไม่พบนายสิทธิโชคจึงประสานแจ้งไปยังหน่วยกู้ภัยให้ทำการช่วยเหลือ

ขณะที่พี่ชายของนายสิทธิโชค เปิดเผยว่า น้องชายได้หายมาตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2165 โดยไม่มีใครรู้ว่าไปที่ใด จนกระทั่งมาถึงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 23 สิงหาคม 2565 นายสิทธิโชคได้โทรไปหาตนพร้อมส่งตำแหน่งให้ทราบว่าอยู่ริมชายหาด อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ตนจึงขับรถจากนครปฐมมาตามหาน้องด้วยความห่วงใย แต่เมื่อมาถึงชะอำจึงได้ทราบว่านายสิทธิโชคกระโดดลงจากเรือจมหายไป

ด้านภรรยานายสิทธิโชค เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานนักสามีได้ไปตรวจร่างกายและแพทย์แจ้งว่าเป็นโรคมะเร็งตับระยะที่ 3 ขั้นสุดท้าย และเริ่มมีอาการเครียดก่อนเกิดเหตุสามีไม่ได้บอกว่าจะเดินทางไปไหนกระทั่งมาทราบว่าเดินทางมาชะอำและสูญหายไปในทะเลเบื้องต้นคาดว่าสามีอาจจะเครียดที่ป่วยเป็นโรครุนแรงและอาจเป็นสาเหตุทำให้คิดสั้น

ทั้งนี้ตั้งแต่เมื่อทราบข่าวว่า มีบุคคลตกน้ำสูญหายในทะเล ทางด้านกรมเจ้าท่า ได้ร่วมกับงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลเมืองชะอำ พร้อมอาสาสมัครมูนิธิสว่างสรรเพชญธรรมะสถาน ได้ร่วมกันค้นหาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่พบผู้สูญหายดังกล่าว