HTCยอดขายโค้งแรกพุ่ง รายได้ปีนี้ทะลุ7พันล้าน
#HTC #ทันหุ้น-HTC วางเป้ารายได้จากการขายปี 2566 โต 6-8% ทะลุ 7,048 ล้านบาท หลังสัญญาณเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวฟื้นตัว อวดไตรมาสแรกยอดขายโดดเด่นตามการกลับมาเดินทางท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ ปักธงปี 2575 รายได้แตะ 1.1 หมื่นล้านบาท ครองมาร์เก็ตแชร์ 35% แย้มเดือนเมษายนจ่อปรับขึ้นราคาเครื่องดื่ม 1.1.5%
พล.ต.พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC เปิดเผยว่า แผยการดำเนินงานในปี 2566บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้จากการขายไว้ที่ไม่น้อยกว่า 6-8% จากปี 2565 ที่อยู่ที่ระดับ 7,048 ล้านบาท และคาดว่าปริมาณการจำหน่ายในปีนี้จะสามารถเติบโตได้มากกว่า 3-5% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว
สังเกตได้ว่าหลังจากที่ประเทศไทยมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในช่วงกลางปี 2565 เป็นต้นมา ยอดตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทยอยกลับเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายมีการเติบโตที่ดีขึ้น และคาดว่ารายได้จากการจำหน่ายในไตรมาส 1/2566จะยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งแบบตัวเลข 2 หลักระดับสูง เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน จากการกลับมาท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ
*เป้า 5 ปี รายได้หมื่นล้าน
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้ารายได้จากการขายในปี 2570 จะแตะที่ระดับไม่ต่ำกว่า 11,000 ล้านบาท และมีปริมาณการจำหน่ายอยู่ที่มากกว่า 80-90 ล้านลังต่อปี และภายในปี 2575รายได้จากการขายจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 15,000 ล้านบาท และมีปริมาณการจำหน่ายอยู่ที่มากว่า 120 ล้านลังต่อปี อีกทั้งยังต้องการมีส่วนแบ่งการตลาดทั้งในส่วนของเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (NARTD) จะอยู่ที่ระดับ 30% ในปี 2570 และเพิ่มสัดส่วนเป็น 35% ภายในปี 2575 จากปัจจุบันอยู่ที่ 26%
ในขณะเดียวกันก็จะยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมโซดาไว้ที่ไม่น้อยกว่า 80% อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของประเด็นการปรับขึ้นภาษีความหวานนั้น ปัจจุบันได้มีการปรับสูตรให้ปริมาณน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดในขณะที่ความหวานและรสชาติยังคงเดิมได้แล้ว สำหรับการปรับขึ้นราคาขาย คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน 2566จะมีการปรับขึ้นราคาสินค้าบางบรรจุภัณฑ์และบางแบรนด์ขึ้นอีกประมาณ 1-1.5%
*ลดต้นทุนรักษามาร์จิ้น
ส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2566 นั้น แม้ว่าต้นทุนจะปรับตัวเพิ่มสูงทั้งในส่วนของค่าก๊าซ น้ำตาล ไฟฟ้า และเม็ดพลาสติก ฯลฯ แต่บริษัทจะยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ในระดับที่มีความเพมาะสม และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 40%ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน
ความคืบหน้าการลงทุนขยายกำลังการผลิตที่โรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี อาคารโรงงานสามารถรองรับได้ 3 ไลน์การผลิต และเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตในผลิตภัณฑ์ PET ได้อีก 30%นั้น ปัจจุบันได้ติดต้งไลน์การผลิตที่ 3แล้วเสร็จและพร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว เพื่อให้ทันในเดือนเมษายน 2566ที่เป็นฤดูร้อนและเป็นช่วงวันหยุดเทศกาล มองว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะเพียงพอต่อการผลิตในอีก 5-6 ปีข้างหน้า
*ชูเป้าหมาย 35.50 บ.
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มีมุมมอง Neutral โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2566 เติบโตรวม 6-8%ตอบรับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจนจากการเปิดประเทศ และตั้งเป้า Gross Margin ขั้นต่ำที่ 40% หนุนจากต้นทุนวัตถุดิบ (PET) ที่ปรับลง การบริโภคเครื่องดื่มขนาดเล็กมากขึ้น แม้จะได้รับผลกระทบจากอัตราภาษีความหวานใหม่ที่เริ่มเดือนเมายน 2566 ที่บริษัทคาดจะต้องจ่ายเพิ่ม
ขณะที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับสูตรน้ำตาลน้อยลง และเพิ่มสัดส่วนไม่มีน้ำตาลมากขึ้น นอกจากนี้ การเพิ่มราคาสินค้าในบาง SKUs ยังเป็นอีกแผนที่สามารถชดเชยค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ เบื้องต้นทางฝ่ายมองในไตรมาส 1/2566 จะบวกได้ YoY และจาก QoQ จากผลของฤดูกาลที่เข้าช่วง Summer และอัตรากำไรที่ฟื้นตัว และคาดกำไรรายไตรมาสมีโอกาสบวกได้ทุกไตรมาส จากการท่องเที่ยวภาคใต้ที่ฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 35.50 บาท โดยยังเป็นหุ้นที่มี Valuation ต่ำสุดในกลุ่ม มี PER23F เพียง 11.2 เท่า ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มอิงท่องเที่ยวที่ทางฝ่ายมองว่าจะฟื้นตัวได้ดีจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากขึ้น (ประกาศจ่ายปันผล 1.0 บาท ที่ 19 พ.ค., XD 2 พ.ค.)