HTCอัพเป้าใหม่โต11% ยอดขายพุ่งรับไฮซีซัน
#HTC #ทันหุ้น – HTC อัพเป้ารายได้ปี 2566 เติบโต 10-11% จากเดิมที่ 9-11% จากการท่องเที่ยวในประเทศที่ฟื้นตัวโดดเด่น และแรงหนุนจากราคาขายใหม่ที่เพิ่มขึ้น ปักธงรายได้จากการขายปี 2567 โต 6-8% และมีมาร์จิ้น 40% ขึ้นไป พร้อมวางเป้าการเติบโตระยะยาวในปี 2570 รายได้รวมแตะ 11,000 ล้านบาท
นายอัมริท คุมาร์ เซรสธา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 คาดว่าปริมาณการขายจะมีการเติบโตที่ดี บริษัทได้เตรียมการรองรับสภาพอากาศที่แปรปรวน เพื่อส่งซัพพลายให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า
ขณะที่ทิศทางผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้ารายได้เป็นเติบโต 10-11% จากเดิมที่ 9-11% ผลมาจากการท่องเที่ยวในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ประกอบกับได้แรงหนุนจากราคาขายใหม่ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดรายได้เครื่องดื่มต่างๆ ของบริษัทดีขึ้นค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้รวมราว 7,092.54 ล้านบาท
*รักษามาร์เก็ตแชร์
ขณะที่ในปี 2567 บริษัทคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตที่ระดับ 6-8% และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 40% ขึ้นไป โดยการพยายามรักษาส่วนแบ่งการตลาดในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมโซดาไว้ที่ไม่น้อยกว่า80% ส่วนในปี 2570 บริษัทคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตขึ้นที่ระดับ 11,000 ล้านบาท
โดยในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทใช้กลยุทธ์บริหารการเติบโตรายได้ผ่านขนาดและรูปแบบผลิตภัณฑ์ (Pack Mix) และช่องทางการจำหน่าย (Channel Mix) เพื่อตอบสนองกับความต้องการ ที่ปรับเปลี่ยนเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อการบริโภคครั้งเดียว (Single Serve) โดยเฉพาะในกลุ่ม HORECA และกลุ่มร้านสะดวกซื้อ (CVS)
รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ออกใหม่เพื่อขยายกลุ่มไม่มีน้ำตาล (Zero Sugar) ไปยังรสชาติอื่นและมีการเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทได้ดำเนินการปรับราคาขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์อัดลมในบางบรรจุภัณฑ์ที่มีราคาเพิ่มขึ้นโดยรวมประมาณ 6% มีผลตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2565 และ ในเดือนเมษายน 2566 ราคาเพิ่มขึ้นโดยรวมประมาณ 1.5% และบริษัทยังสามารถรักษามูลค่าส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์และส่วนแบ่งการตลาดน้ำอัดลมจากต้นปีจนถึงเดือนกันยายน 2566 ได้ที่ระดับ 25.2% และ 79.5% ตามลำดับ
*Q4/66 โตรับไฮซีซัน
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง HTCว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2566 จะกลับมาเติบโตทั้ง QoQ เเละYoY จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของภาคท่องเที่ยว ประกอบกับการได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการยกเลิกวีซ่านักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวภาคใต้สูงขึ้น หนุนการบริโภคทั้งในกลุ่มโรงแรม, ร้านอาหาร และธุรกิจท่องเที่ยว (HoReCa)
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 42% ฟื้นตัว QoQตามแนวโน้มอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นอย่างไรก็ตามอาจต้องติดตามปริมาณนักท่องเที่ยวจีนอย่างต่อเนื่องจากความเสี่ยงที่อาจน้อยกว่าคาดการณ์จากผลกระทบของเหตุการณ์ในห้างสยามพารากอน
*เป้าใหม่ 19 บาท
ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการกำไรปี 2566-2567 จากการปรับสมมติฐานรายได้ลง จากปริมาณขายที่เติบโตได้ช้ากว่าเดิมที่ประเมินไว้ และเพื่อให้ Conservative มากขึ้นต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก
และปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2567 และปรับลด PER ในการประเมินมูลค่าลงเป็น 11.0 เท่า (เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของ PER Band ย้อนหลัง 5 ปี) จากเดิมที่ 14.0 เท่าเพื่อสะท้อนภาวะตลาดที่ผันผวนมากขึ้น ส่งผลให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 19.00 บาท โดยราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายที่ PER67 เพียง 9.5 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มเครื่องดื่ม, มี Upside 18.8% และยังคาดหวังปันผลได้สูงราว 7% ต่อปี แนะนำเป็น “ซื้อ” สำหรับการลงทุนระยะยาว