HTCร้อนจัดยอดขายโค้กพุ่ง เที่ยวคึกคัก-เป้ารายได้โต8%
#HTC#ทันหุ้น - คลื่นความร้อนเข้าไทยช่วงเมษายนดันอุณหภูมิจ่อทะลุ 40 องศา HTC ยิ้มได้ผลบวกยอดขายเครื่องดื่มพุ่ง แถมลั่นปีนี้รายได้โต 8% จากปีก่อน โปรดักส์ใหม่หนุน-พอร์ตลูกค้าขยายตัว แถมปลื้มท่องเที่ยวหวนคึกคัก รับฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวรหนุน
พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้รับลิขสิทธิ์การผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า สำหรับสภาพอากาศที่ขึ้นนั้นถือเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ความต้องการเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งยังช่วยหนุนยอดขายเครื่องดื่มต่างๆ ของบริษัทให้ขยายตัวตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี ในแง่การสำรวจข้อมูลตัวเลขสัดส่วนรายได้ของ HTC แบ่งเป็น กลุ่มเครื่องดื่มประเภทน้ำดำภายใต้แบรนด์ โค๊ก อยู่ที่ประมาณ 69%, เครื่องดื่ม แฟนต้า อีกราว 17% และที่เหลือมาจากส่วนอื่นๆ
ทั้งนี้ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาพอากาศโดยทั่วไปของประเทศไทยในช่วงเดือนเมษายน 2567 พบว่า อุณภูมิโดยเฉลี่ยในทุกภาคปรับตัวสูงขึ้น และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่เป็นระยะๆ โดยประเมินว่าอุณหภูมิสูงที่สุด 43.0-44.5 องศาเซลเซียส ซึ่งสรุปเดือนนี้คาดว่า อุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงกว่าค่าปกติ จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงาน หรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้
*เป้ารายได้โต6-8%
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ทาง HTC วางเป้ารายได้เติบโตราว 6-8% เมื่อเทียบกับปี 2566 หลังบริษัทมีแผนนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งในส่วนของรสชาติและขนาดใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิ์ภาพ
นอกจากนี้ ภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังช่วงที่ผ่านมาทางการไทยและจีนได้ลงนามในข้อตกลงยกเว้นข้อกำหนดวีซ่าเป็นการถาวรสำหรับนักท่องเที่ยวของกันและกันแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างทั้ง 2 ประเทศ และมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มีนาคม2567 ที่ผ่านมาและอื่นๆ นั้นบริษัทประเมินเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัท เพราะปัจจุบันพื้นที่ขายของ HTC อยู่ในจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ของไทย ซึ่งถือเป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยว จึงส่งผลให้ยอดขายของบริษัทขยายตัวมากขึ้น
* ตั้งงบลงทุน1.3พันล.
สำหรับในปี 2567 ทาง HTC ตั้งงบลงทุนไว้อยู่ที่ราว 1.3 พันล้านบาท ซึ่งจำแนกเป็น สำหรับการก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ราว 500 ล้านบาท (คาดเปิดได้ในไตรมาส 3/2567) ส่วนที่เหลือเป็นการเพิ่มกำลังผลิตไลน์ผลิตขวดแก้วในจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ซึ่งคาดน่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 4/2567 จากเดิมที่มีกำลังรวมขวดแก้วอยู่ที่ 800 ขวดต่อนาที และอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในระยะยาว
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วชนิดคืนขวดนั้น HTC ประเมินว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะ ในช่องทางโรงแรม ร้านอาหาร และภัตตาคาร ซึ่งมีความเหมาะสมกับบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ เนื่องจากผู้บริโภคดื่มเครื่องดื่มของบริษัทภายในร้าน (on-premise consumption) และยังถือว่าเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ธุรกิจนั้นมีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าคู่แข่ง
ขณะเดียวกันการมีธุรกิจขวดแก้วที่แข็งแกร่งจะทำให้สามารถบริหารต้นทุนบรรจุภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้นในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก ซึ่งถือเป็นแรงสนับสนุนและหัวใจสำคัญสำหรับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทเพิ่มเติม