มายังไง ? แซม อัลท์แมน (Sam Altman) โผล่รายชื่อมหาเศรษฐี Forbes แต่ไม่มีหุ้นใน OpenAI !

แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และผู้ร่วมก่อตั้งโอเพ่น เอไอ (OpenAI) ได้ทำงานกับบริษัทโดยไม่มีหุ้นส่วนในบริษัทตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน แต่ในการจัดอันดับมหาเศรษฐี (Billionaire) โดยนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) กลับพบว่า Sam Altman มีทรัพย์สินสุทธิถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 36,000 ล้านบาท แล้วทรัพย์สินส่วนนี้มาได้อย่างไร

ทำไม Sam Altman ถึงไม่มีหุ้น OpenAI ในมือ

ความสงสัยจากสื่อต่างชาติเริ่มจากการที่ Sam Altman ประกาศไม่ถือหุ้นใด ๆ ของ OpenAI ในปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทตัดสินใจหันเหทิศทางการบริหารเป็นบริษัทเพื่อการทำกำไร (for-profit) โดยตั้งบริษัทลูกขึ้นมาทำธุรกิจเพื่อนำกำไรและรายได้มาใช้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่ง Sam Altman ตัดสินใจไม่ลงหุ้นในบริษัทลูก โดยให้เหตุผลว่าตัวเองมีทรัพย์สินเพียงพอแล้ว 

ในขณะที่ความเห็นบางส่วนในเรดดิต (Reddit) แพลตฟอร์มบล็อกชื่อดัง เชื่อว่าการตัดสินใจของ Sam Altman ป้องกันการโดนฟ้องโดยอีลอน มัสก์ (Elon Musk) เนื่องจากทั้งสองแตกหักจากมุมมองการหากำไรให้กับบริษัทมาก่อน และถ้า Altman ลงทุนในหุ้น จะเป็นเหตุผลเพียงพอให้ Musk ยื่นฟ้องจากการละเมิดข้อตกลงในการตั้งบริษัทขึ้นได้ด้วย

ทั้งนี้ หลังจากที่ OpenAI สามารถระดมทุนครั้งใหญ่จากไมโครซอฟท์ (Microsoft) และครองตลาดบริการด้าน AI ได้สำเร็จผ่านแชตจีพีที (ChatGPT) ทำให้มูลค่าของบริษัทในปัจจุบันนั้นอยู่ที่ประมาณ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท

แล้ว Sam Altman มีเงินจากไหน

ย้อนกลับไปในปี 2014 Altman ได้เขียนบอกเล่าประสบการณ์การลงทุนผ่านบล็อกและทวิตเตอร์ (Twitter - X ในปัจจุบัน) ว่าลงทุนกับสตาร์ตอัปในรูปแบบเงินตั้งต้น (Seed Funding) มากกว่า 40 บริษัท ซึ่งหลายบริษัทในปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่าอดีตเกือบ 100 เท่า ตามการรายงานของเทคสปอต (Techspot) 

ในขณะที่ Forbes วิเคราะห์ว่า Altman มีเงินก้อนมูลค่า 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ1,600 ล้านบาท ในปี 2012 จากการขายบริษัทสตาร์ตอัปที่ชื่อว่า ลูปต์ (Loopt) ทำให้เขาผันตัวมาเป็นนักลงทุนมูลค่าบริษัท (Venture Investment: VI) ก่อนมาร่วมก่อตั้ง OpenAI เสียอีก

โดย Forbes ระบุว่า บริษัทที่ Altman เข้าไปลงทุนนั้นมีทั้งในภาคส่วนเทคโนโลยี เช่น สไตรป์ (Stripe) บริษัทที่ทำระบบชำระเงินทั้งแบบออนไลน์และหน้าร้าน รวมถึงโซลูชันด้านการเงินสำหรับธุรกิจ Reddit รวมถึงบริษัท เฮลิโอ (Helio) บริษัทที่กำลังพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชัน (Nuclear Fusion) ด้วย

ข้อมูลจาก Forbes, Techspot, CNBC, Reddit

ภาพจาก Reuters