สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Turbo เตรียมทำความเร็วทะลุ 160 กม./ชม. ด้วยล้อแค่ 25.4 ซม.

โบ (Bo) บริษัทด้านยานยนต์จากสหราชอาณาจักร กำลังสร้างความฮือฮาในวงการ ด้วยการพัฒนา สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเทอร์โบ (Turbo) ที่ออกแบบมาเพื่อทำสถิติความเร็วบนพื้นดินให้เป็นที่หนึ่งของโลกโดยมีเป้าหมายทะลุ 100 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือราว 160 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง

จากงานศิลปะสู่เครื่องจักรความเร็วสูง

ก่อนหน้านี้ โบ (Bo) เป็นที่รู้จักจากสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าดีไซน์ล้ำสมัย รุ่น Model-M ที่สร้างโดยอดีตวิศวกร Formula One แม้ว่า Model-M จะโดดเด่นด้วยตัวถังอะลูมิเนียมชิ้นเดียวและดีไซน์แบบอาร์ตเดโค (Art Deco) หรือรูปแบบศิลปะและการออกแบบ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง ทศวรรษ 1920s – 1930s แต่ก็มีราคาเริ่มต้นสูงถึง 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 70,000 บาท 

แต่ล่าสุด โบ (Bo) ได้นำพื้นฐานของ Model-M มายกระดับสู่รุ่น เทอร์โบ (Turbo) ด้วยการติดตั้งมอเตอร์ดุมล้อคู่ แบตเตอรี่กำลังสูง 88 โวลต์ และระบบจัดการความร้อนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง F1 ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ เทอร์โบ (Turbo) ไม่ใช่แค่สกู๊ตเตอร์สำหรับใช้งานทั่วไปอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องจักรความเร็วสูงที่พร้อมจะสร้างสถิติใหม่

มุ่งสู่ทุ่งเกลือในตำนาน

ก่อนหน้านี้ เทอร์โบ (Turbo) ได้ทดสอบความเร็วและทำได้ถึง 85 ไมล์ต่อชั่วโมง (135 กม./ชม.) ที่สนาม Goodwood Motor Circuit ซึ่งเป็นสนามแข่งรถที่ตั้งอยู่ในเมือง ชิเชสเตอร์ (Chichester) เวสต์ซัสเซกซ์ (West Sussex) ในอังกฤษ แต่ทางบริษัทมองว่าแค่นั้นยังไม่พอ โดยล่าสุดมีรายงานจาก Wired สื่อที่เน้นเรื่องการรายงานข่าวสารเทคโนโลยีและนวัตกรรม และภาพที่ปรากฏบนโซเชียลมีเดียว่าทีมงานได้นำ Turbo เดินทางไปยังทุ่งเกลือ Bonneville Salt Flats ในรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าร่วมงาน Bonneville Speed Week หรือการแข่งขันทำลายสถิติความเร็วบนพื้นดินประจำปี ซึ่งจัดขึ้นที่ Bonneville Salt Flats ในรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ทุ่งเกลือ Bonneville Salt Flats เป็นสถานที่ในตำนานสำหรับนักทำลายสถิติความเร็วบนพื้นดินมาตั้งแต่ปี 1935 โดยสถิติตกเป็นของ Sir Malcolm Campbell ทำสถิติเป็นคนแรกของโลกที่ขับรถเร็วเกิน 300 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือหรือราว 483 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ซึ่งการเข้าร่วมในครั้งนี้ทำให้ โบ (Bo) หวังที่จะจารึกชื่อ เทอร์โบ (Turbo) ในฐานะสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก

ความท้าทายที่น่าจับตา

ในการทำลายสถิติความเร็วนี้ ไม่ใช่แค่การขับให้เร็วที่สุดเท่านั้น แต่ต้องทำตามกฎของ Southern California Timing Association (SCTA) หรือ สมาคมที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการแข่งขันรถยนต์ความเร็วสูง (land speed racing) ในสหรัฐอเมริกา ที่กำหนดให้ต้องวิ่งสองรอบในทิศทางสวนกัน และนำความเร็วมาหาค่าเฉลี่ย เพื่อให้ได้สถิติที่แม่นยำและเป็นธรรมที่สุด โดยไม่มีปัจจัยเรื่องลมมาเกี่ยวข้อง

แต่สิ่งที่ทำให้การทำลายสถิติครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าจับตามองยิ่งกว่านั้นคือ ความเสี่ยง ที่มาพร้อมกับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าโบ เทอร์โบ (Bo Turbo) ที่มีล้อขนาดเพียง 25.4 เซนติเมตร การขับยานพาหนะขนาดเล็กที่มีล้อขนาดจิ๋วบนความเร็วเกิน 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทั้งทักษะ และความกล้า ทำให้การทำลายสถิติครั้งนี้เป็นที่น่าจับตามอง