โบรกฯเชียร์ BCH-RJH
บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) มองว่า บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) BCH ในไตรมาส 3/63 มีรายได้จากคนไข้ประกันสังคมและรายได้จากการตรวจโควิด-19 มาช่วยหนุนผลประกอบการ โดยในไตรมาส 2/63 โรงพยาบาลมีผู้ประกันตนมาลงทะเบียนเพิ่มขึ้น 3% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อในช่วงครึ่งหลังของปี 63 เราประมาณการว่าจะมีรายได้จากสำนักงานประกันสังคมเข้ามามากกว่ารายได้ที่เคยบันทึกไว้ 10-15 ล้านบาท ด้านรายได้จากตรวจโควิด ประเมินว่าจะเข้ามาราว 240 ล้านบาท ในปี ไตรมาส 3/63 ส่วนรายได้จากการทำ Alternative state quarantine (ASQ) และ Alternative hospital quarantine (AHQ) จะเข้ามาใน ไครมาส 3/63 ประมาณ 60 ล้านบาท
3 โรงพยาบาลใหม่ ช่วยดึงมาร์จิ้นลงในระยะสั้น โดยเปิดโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อรัญประเทศ (51 เตียง) ไปแล้วเมื่อ พฤษภาคม 2563 และจะเปิดที่เวียงจันทร์ ประเทศลาว (110 เตียง) และที่ปราจีนบุรี (115 เตียง ) ในไตรมาส 4/63 -ไตรมาส 1/64 ซึ่งในช่วงแรกของการเปิดโรงพยาบาลจะยังขาดทุน โดยเราคาดว่าโรงพยาบาลอรัญประเทศจะขาดทุน 30 ล้านบาทในไตรมาส 3/63 (ในไตรมาส 2/63 ขาดทุน 20 ล้านบาท)
ฝ่ายวิจัย คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 17 บาท คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/63จะเติบโตเป็นเลขหลักเดียวด้านต่ำ เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนทั้งปี 63 เติบโต 3%เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และปี 64 เติบโต 9%เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ณ ราคาปัจจุบันมี P/E ปี 64 เท่ากับ 28.5 เท่า ต่ำกว่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 34 เท่า
ส่วน บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH แม้จำนวนผู้ประกันตนใน จังหวัดอยุธยาตั้งแต่ต้นปี จนถึง ณ สิ้นก.ค.63 จะลดลง 4.8% แต่คนไข้ประกันสังคมของ RJH เพิ่มขึ้น +2.7% ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 55% ในสิ้นก.ค.63
ขณะที่คนไข้เงินสดทยอยกลับมา ปัจจุบันคนไข้เงินสดกลับมา 90% ของจำนวนก่อนมีโควิด-19 แล้ว (ขณะที่โรงพยาบาลพรีเมียมกลับมา 80%) ส่วนคนไข้ผู้ป่วยใน(IPD) ลดลง 10%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ทาง RJH มีคนไข้ต่างชาติคิดเป็นเพียง 1% ของรายได้เท่านั้น
มี Upside จากการตรวจโควิด-19 โดยโรงพยาบาลเริ่มตรวจตั้งแต่ไตรมาส 1/63 ซึ่งทำรายได้ 32 ล้านบาทในไตรมาสนั้น ส่วนในไตรมาส 3/63 ทำรายได้ราว 20 ล้านบาท/เดือน และทาง RJH สามารถเบิกต้นทุนค่าตรวจจากเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต(UCEP) ที่ 2.4-2.5 พันบาท/ราย
การเปิดศูนย์เฉพาะทางช่วยเพิ่มคนไข้เงินสดและกำไร โดยเดือนมี.ค.63 เปิดศูนย์ฉุกเฉิน( ER) เพิ่มอีก 10 เตียง, มิ.ย.63 เปิดศูนย์มะเร็ง โดยในไตรมาส 4/63 จะเปิดบริการศูนย์มะเร็ง และให้บริการด้านผิวหนัง รวมทั้งเพิ่มเตียงผู้ป่วยในอีก 18 เตียง
คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 จะเติบโตเป็นเลขหลักเดียวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะได้อานิสงค์จากการตรวจโควิด-19 ด้วย ส่วนไตรมาส4/63 คาดว่าจะไม่มีการกลับรายการรายรับจากสำนักงานประกันสังคม และจำนวนคนไข้เงินสดฟื้นตัว คาดกำไรสุทธิปี 63F จะลดลง 1%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 322 ล้านบาท และเติบโต 14%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 367 ล้านบาทในปี 64
ฝ่ายวิจัย แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 28 บาท เราชอบ RJH เนื่องจาก 1) เป็นโรงพยาบาลชั้นนำในจ.อยุธยา และอยู่ในทำเลดี ใกล้นิคมอุตสาหกรรม, โรงงาน, 2) ฐานะการเงินแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ, 3) Valuation จูงใจ โดยมี P/E ปี 64F เพียง 18 เท่า (ต่ำกว่ากลุ่มที่ 34 เท่า)
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline