อย่าลืม!14 ก.ค. นักดาราศาสตร์ชวนชมดาวพฤหัสบดีใกล้โลก
วันนี้ (14 ก.ค.63 )นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านดาราศาสตร์ไทยและที่ปรึกษาหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า “วันนี้ 14 ก.ค. หลังพระอาทิตย์ตกดินอย่าลืมชมปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ที่เรียกว่าดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี สามารถสังเกตเห็นดาวพฤหัสบดีนั้นสวยงามที่สุดและเห็นเบลหรือเข็มขัดเมฆบนดวงดาวได้ชัดเจน
ดาวพฤหัสบดีจะโคจรมาอยู่ตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (Jupiter Opposition) โดยมีโลกคั่นกลาง เรียงกันในแนวเส้นตรง ส่งผลให้ตำแหน่งของดาวพฤหัสบดีใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 619 ล้านกิโลเมตร
สามารถชมปรากฏการณ์นี้ได้เมื่อดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า จะมองเห็นดาวพฤหัสบดีปรากฏบริเวณขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มองเห็นส่องสุกสว่าง มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน หากฟ้าใสไร้ฝนสังเกตได้ด้วยตาเปล่านานตลอดคืน จนถึงรุ่งเช้า
เมื่อมองดูดาวพฤหัสบดีผ่านกล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็กจะสามารถสังเกตแถบเมฆ(เบลหรือเข็มขัด) และ ดวงจันทร์บริวารขนาดใหญ่ทั้ง 4 ดวง ของดาวพฤหัสบดี ที่เรียกว่า ดวงจันทร์กาลิเลียน (Galilean Moons) ได้แก่ ไอโอ (Io) ยูโรปา (Europa) แกนีมีด (Ganymead) และ คัลลิสโต (Callisto) หากใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 8 นิ้ว กำลังขยายตั้งแต่ 50 เท่าขึ้นไป จะสามารถมองเห็นจุดแดงใหญ่ บนดาวพฤหัสบดี (Great Red Spot) ได้อย่างชัดเจน ในช่วงเวลาประมาณ 22.00-01.00 น.
นายวรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า คืนดังกล่าว ยังสามารถสังเกตเห็นดาวเสาร์สว่างปรากฏอยู่ใกล้กับดาวพฤหัสบดีอีกด้วยซึ่งถัดจากนี้อีกหนึ่งสัปดาห์ ดาวเสาร์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ พร้อมเกิดปรากฏการณ์ “ดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี” ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ที่จะถึงนี้อีกด้วย
“ที่หอดูดาวภูมิภาคตะวันออกใกล้กรุงเทพฯที่สุด หรือ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ ฉะเชิงเทรา ได้เตรียมตั้งกล้องโทรทรรศน์ หรือกล้องดูดาวหลายตัว คอยต้อนรับ จัดกิจกรรมสังเกตการณ์ดาวเคราะห์ใกล้โลก “ดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี” วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 18:00 - 22:00 น. จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในวันและเวลาดังกล่าว ในรูปแบบ New Normal ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย”
ในช่วงกลางปีไปจนถึงปลายปี 2563 ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ จะปรากฏใกล้กันบนท้องฟ้า จนกระทั่งช่วงระหว่างวันที่ 20-23 ธันวาคม 2563 ดาวเคราะห์ทั้งสองจะปรากฏใกล้กันมาที่สุดในรอบ 397 ปี ห่างเพียง 0.1 องศา หากดูด้วยตาเปล่าจะมองเห็นเสมือนเป็นดาวดวงเดียวกัน เรียกว่า ปรากฏการณ์ “The Great Conjunction” และถ้ามองผ่านกล้องโทรทรรศน์กำลังขยายไม่เกิน 100 เท่า จะเห็นดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีอยู่ในช่องมองภาพเดียวกัน ถือเป็นปรากฎการณ์ที่น่าติดตามชมเป็นอย่างมาก” นายวรวิทย์ กล่าวในที่สุด
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline