เทคนิคการขับขี่รถ และการเตรียมสภาพรถ ในหน้าฝน

9 พฤษภาคม 2568 ( 22:34 )
5
เมื่อเข้าเดือนพฤษภาคมของทุกปี ก็จะเริ่มเข้าใกล้ฤดูฝนอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เพราะเราจะเริ่มเห็นฝนตกมากขึ้นในช่วงนี้ ทำให้การขับรถในฤดูฝนต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี ถนนลื่น และอาจมีน้ำท่วมขัง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย สำหรับทั้งรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ หรือยานพาหนะอื่นๆ ที่ใช้ถนนร่วมกัน นอกจากควรเคารพกฏจราจรแล้ว ควรปฏิบัติดังนี้
ข้อควรปฏิบัติการสำหรับการขับขี่ในหน้าฝน
- เปิดไฟหน้า: เมื่อใช้รถใช้ถนนแล้วเกิดฝนตก ควรเปิดไฟหน้ารถ เพราะจะช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น และให้รถคันอื่นสังเกตเห็นรถของคุณได้ง่าย รวมถึงไม่ควรใช้ไฟตกแต่งที่มีความสว่างมากกว่าปกติ หรือผิดกฏหมาย เพราะอาจรบกวนสายตาเพื่อนร่วมทางได้
- ใช้ที่ปัดน้ำฝน: สำหรับรถยนต์หรือยานพาหนะที่มีกระจก ควรเปิดใช้งานที่ปัดน้ำฝน โดยปรับระดับความเร็วให้เหมาะสมกับปริมาณฝน เพื่อรักษาทัศนวิสัย
- รักษาระยะห่าง: เมื่อฝนตก ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติอย่างน้อย 2 เท่า เผื่อระยะเบรก เพราะพื้นถนนที่เปียก อาจทำให้รถลื่นไถลได้
- ลดความเร็ว: ควรขับรถช้าลงกว่าปกติ เพื่อให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้นและลดความเสี่ยงการเหินน้ำ ในกรณีที่เหยียบน้ำท่วมขัง
- หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหัน: การเบรกแรงๆ บนถนนลื่นอาจทำให้รถเสียการควบคุม จนอาจเกิดอุบัติเหตุได้
- สังเกตเส้นทาง: มองหาแอ่งน้ำขังและหลีกเลี่ยง หรือลดความเร็วเมื่อต้องขับผ่าน
- เปิดไฟตัดหมอก (ถ้ามี): ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในกรณีฝนตกหนักมาก แต่ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อ
- หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเลนกะทันหัน: ควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้าและตรวจสอบรถด้านหลังให้แน่ใจว่าปลอดภัยก่อน จึงเปลี่ยนเลน
- หากฝนตกหนักมากจนมองไม่เห็น: ควรหาที่จอดรถที่ปลอดภัยและรอจนฝนซาลง แล้วค่อยเดินทางต่อ
- ลดกระจกลงเล็กน้อย หรือใช้ระบบไล่ฝ้า: เพื่อป้องกันการเกิดฝ้าที่บดบังทัศนวิสัย
การเตรียมพร้อมสภาพรถในฤดูฝน
การเตรียมสภาพรถให้พร้อมสำหรับฤดูฝนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน โดยควรตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้:
- ยางรถยนต์: ตรวจสอบแรงดันลมยางให้เหมาะสม และเช็คดอกยางว่ายังมีความลึกเพียงพอ เพื่อการยึดเกาะถนนที่ดีและการรีดน้ำที่มีประสิทธิภาพ
- ที่ปัดน้ำฝน: ตรวจสอบยางปัดน้ำฝนว่ายังปัดได้สะอาด ไม่มีรอยแตกร้าว หากปัดแล้วยังเป็นคราบ ควรเปลี่ยนใหม่
- น้ำฉีดกระจก: เติมน้ำในกระปุกฉีดกระจกให้เต็ม และตรวจสอบหัวฉีดว่าทำงานได้ดี
- ระบบไฟส่องสว่าง: ตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก และไฟเลี้ยว ให้ทำงานเป็นปกติ
- ระบบเบรก: ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก และการทำงานของเบรก หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบนำรถไปตรวจเช็ค
- แบตเตอรี่: ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ว่าสะอาดและแน่นหนา หากแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานนานแล้ว ควรตรวจเช็คสภาพ
- ระบบปรับอากาศ: ตรวจสอบการทำงานของระบบไล่ฝ้าที่กระจกหน้าและหลัง
- น้ำมันเครื่องและของเหลวอื่นๆ: ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และน้ำหล่อเย็นว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม
การดูแลรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจในทุกสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูฝนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
Photo Credit : AI Generated