รีเซต

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (27 ก.ค. 2565)

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (27 ก.ค. 2565)
TeaC
27 กรกฎาคม 2565 ( 11:55 )
300

ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" ล่าสุด ผู้ว่าแบงก์ชาติยูเครนหวังได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจาก IMF 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบหนักจากปฏิบัติการรัสเซีย ประเมินเศรษฐกิจยูเครนติดลบ 35-45% อ่าน : เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (26 ก.ค. 2565)

 

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (26 ก.ค. 2565)

 

ผู้ว่าแบงก์ชาติยูเครนหวังได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจาก IMF 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบหนักจากปฏิบัติการรัสเซีย ประเมินเศรษฐกิจยูเครนติดลบ 35-45%

 

คีรีโล เชฟเชนโก ผู้ว่าการธนาคารกลางยูเครน กล่าวเมื่อวานนี้ (26 กรกฎาคม) ยูเครนหวังจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ในการขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน 15,000-20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นปีนี้


ยูเครนกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก หลังรัสเซียเปิดปฏิบัติการในยูเครนมานาน 5 เดือนแล้ว เศรษฐกิจยูเครนอาจหดตัวติดลบ 35-45% ในปี 2022 นี้ ขณะนี้ต้องใช้งบประมาณขาดดุลเดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และต้องพึ่งพิงความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศที่มาจากประเทศตะวันตกเป็นหลัก

เชฟเชนโก เปิดเผยว่า ยูเครนได้ยื่นคำขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเป็นทางการถึง IMF ไปแล้ว และขณะนี้อยู่ในขั้นของการหารือกับ IMF เขาหวังว่า จะได้รับเงินกู้จาก IMF ได้ถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับใช้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า


นับเป็นครั้งแรกที่ยูเครนเปิดเผยตัวเลขเงินกู้ที่ต้องการจาก IMF และหากได้รับเงินกู้จาก IMF ถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จริง จะทำให้ยูเครนเป็นประเทศที่กู้เงินจาก IMF มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากอาร์เจนตินา
เชฟเชนโกชี้ว่า หากได้รับเงินกู้ก้อนใหม่จาก IMF จะช่วยให้ยูเครนสามารถฟื้นและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจน ทำให้เศรษฐกิจยูเครนกลับคืนสู่สภาพก่อนรัสเซียปฏิบัติการในยูเครน ทั้งในด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่ยืดหยุ่น ไม่มีข้อจำกัดในตลาดเงิน และสามารถลดเงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในภาคการธนาคาร รวมถึงช่วยทำให้นโยบายการคลังของยูเครนกลับคืนสู่สมดุล


ทั้งนี้ IMF ได้ให้เงินกู้แก่ยูเครนอยู่แล้ว 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นเงินช่วยเหลือทางการเงินฉุกเฉินของ IMF ที่ตกลงกับยูเครนไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วน 50% ของโควตายูเครนในการได้รับเงินช่วยเหลือประเภทฉุกเฉินของ IMF


ขณะเดียวกัน ยูเครนยังอยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศเพื่อขอพักชำระหนี้ ผ่อนคลายภาวะขาดแคลนสภาพคลอ่งของยูเครน


นอกจากนี้ ยูเครนยังหวังว่า ปัญหาการขาดรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศและปัญหาสภาพคล่อง จะสามารถคลี่คลายลงได้อีกทาง หลังจากที่ยูเครนกับรัสเซีย เพิ่งบรรลุข้อตกลงฟื้นการส่งออกธัญพืชเข้าสู่ตลาดโลกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะทำได้ยูเครนมีรายได้จากการส่งออกดังกล่าว แต่กว่าที่รายได้จากการส่งออกธัญพืชจะฟื้นกลับมาอย่างเห็นชัดเจนนั้น อาจจะต้องรอถึงปีหน้า


อย่างไรก็ตาม เชฟเชนโกประเมินว่า ยูเครนจะกลับมาส่งออกธัญพืชได้เดือนละราว 5 ล้านตัน ซึ่งจะสร้างรายได้ให้ยูเครนประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2023

 

รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู ได้ข้อสรุป ตกลงอนุมัติข้อเสนอลดการใช้ก๊าซธรรมชาติลงอีก 15% หวังลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย

การอนุมัติข้อตกลงดังกล่าวที่เกิดขึ้นในวันอังคาร (26 กรกฎาคม) เป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกทำการลดการใช้ก๊าซธรรมชาติของตนลงโดยสมัครใจ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ จนถึงเดือนมีนาคมของปีหน้า โดยอนุญาตให้มีการสะสมพลังงานไว้ล่วงหน้า เพื่อรับมือกับภาวะอากาศเย็นในช่วงฤดูหนาวหน้าด้วย

 

หากมีเหตุฉุกเฉินใด ๆ ก็ตาม อียู สามารถสั่งบังคับลดการใช้พลังงานในกลุ่มประเทศสมาชิกได้ด้วย โดยมีข้อยกเว้นบางประการที่มีการตกลงกันไว้ในระหว่างการหารือประเด็นนี้ เพื่อเป็นการประนีประนอมให้บรรลุข้อตกลงดังกล่าว
ข้อตกลงลดการใช้ก๊าซธรรมชาติของสมาชิกอียูนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความเสี่ยงว่า รัสเซียอาจสั่งหยุดการส่งออกก๊าซมายังยุโรป เพื่อตอบโต้การดำเนินมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจของอียู จากกรณีที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน

 

ทั้งนี้ บริษัท Gazprom ของรัฐบาลรัสเซีย เพิ่งประกาศลดการนำส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปลงตั้งแต่วันพุธนี้ โดยทางบริษัทให้เหตุผลว่า เป็นเรื่องของงานซ่อมบำรุงท่อส่งนอร์ดสตรีม โดยก๊าซพรอมจะลดการส่งก๊าซผ่านท่อส่งนอร์ดสตรีม 1 ไปยังเยอรมนี ลงเหลือ 1 ใน 5 ของกำลังการผลิต ขณะที่ เจ้าหน้าที่อียูเชื่อว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นเรื่องของเหตุผลทางการเมืองล้วน ๆ

 

ขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ประกาศขยายมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียเพิ่ม ท่ามกลางวิกฤตในยูเครนยังคงไม่มีสัญญาณว่าจะยุติลงในเร็ว ๆ นี้

 

กระทรวงการต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร ประกาศผ่านเว็บไซต์ของตนในวันอังคาร (26 กรกฎาคม) ว่า ได้มีการสั่งดำเนินมาตรการลงโทษ ซึ่งรวมความถึงคำสั่งห้ามการเดินทางและการอายัดทรัพย์สิน ต่อบุคคลและองค์กรจำนวน 42 คน/แห่งของรัสเซีย

 

คำสั่งห้ามการเดินทางและการอายัดทรัพย์สินดังกหกล่าว มีทั้งผู้ว่าการแคว้นหลายคนของรัสเซีย รวมถึงวิตาลี คตเซนโก นายกรัฐมนตรีที่รัสเซียแต่งตั้งให้ไปดูแลแคว้นดอนบาสในยูเครน และวลาดิสลาฟ คุซเนตซอฟ รองประธานเขตปกครองพิเศษลูฮันสก์ ซึ่งรัสเซีย แต่งตั้งด้วย

 

ขณะเดียวกัน อียู อนุมัติการขยายเวลามาตรการลงโทษรัสเซียออกไปอีก 6 เดือน หรือ จนถึงวันที่ 31 มกราคมของปีหน้า ตามข้อมูลในแถลงการณ์ของสภาสหภาพยุโรป

 

นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรได้ดำเนินมาตรการลงโทษต่อผู้คนกว่า 1,100 คนและธุรกิจกว่า 100 แห่งของรัสเซียไปแล้ว

 

ส่วน อียู ได้ประกาศมาตรการลงโทษออกมาถึง 6 ครั้ง ภายใต้ความร่วมมือกับหุ้นส่วนชาติตะวันตกอื่น ๆ

 

ข้อมูล TNN World

ภาพ: Reuters 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง

ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง