นิวยอร์กติดตั้งกังหันลมนอกชายฝั่งตัวแรก ใช้จ่ายไฟให้ 70,000 ครัวเรือน

สหรัฐอเมริกาก้าวไปสู่จุดสำคัญบนเส้นทางสู่ยุคพลังงานสะอาด ด้วยการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้านอกชายฝั่งตัวแรก บริเวณเกาะ ลอง ไอส์แลนด์ (Long Island) ในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ เซาท์ ฟอร์ก วินด์ (South Fork Wind) โครงการสร้างฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง เพื่อช่วยเพิมกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้เพิ่มขึ้น

โดยโครงการสร้างฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งนี้ จะใช้กังหันลมของบริษัท Siemens Gamesa รุ่น SG 11-200 DD จำนวน 12 ตัวด้วยกัน เพื่อให้กำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุดถึง 130 เมกะวัตต์ (MW) โดยคาดว่าจะติดตั้งกังหันลมทั้งหมดแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2023 หรือต้นปี 2024 

ซึ่งถ้าการติดตั้งกังหันทั้งหมดเสร็จสิ้น คาดว่าจะสามารถผลิตพลังงานทดแทนเพียงพอที่จะจ่ายไฟให้กับ 70,000 ครัวเรือนบนเกาะ Long Island และจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 6 ล้านตันในช่วง 25 ปี เทียบเท่ากับการนำรถยนต์ออกจากถนนถึง 60,000 คันต่อปี

สำหรับการติดตั้งกังหันลมนอกชายฝั่งตัวแรกในโครงการนี้ เป็นความร่วมมือโดยบริษัทด้านพลังงานจากประเทศเดนมาร์ก เออร์สเตด (Ørsted) บริษัทด้านพลังงานจากประเทศสหรัฐอเมริกา เอเวอร์ซอร์ส (Eversource) และบริษัทวิศวกรรมการก่อสร้างทางทะเลจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ฟานโอร์ด (Van Oord) 

ซึ่งนอกจากโครงการนี้แล้ว รัฐนิวยอร์ก ยังมีโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งอีก 4 โครงการ ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้เช่นกัน ได้แก่ Beacon Wind, Empire Wind 1-2 และ Sunrise Wind ซึ่งทั้งหมดนี้ จะให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกันกว่า 4 กิกะวัตต์ (GW) ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายอันทะเยอทะยานของรัฐนิวยอร์ก ในการพัฒนาแหล่งพลังงานลมนอกชายฝั่งขนาด 9 กิกะวัตต์ (GW) ให้ได้ภายในปี 2035 เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของรัฐในการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาด 100% ให้ได้ภายในปี 2040 นี้

ข้อมูลจาก interestingengineering,  electrek,  windpowerengineering