รีเซต

ระเบิด"โรงงานกิ่งแก้ว" รุนแรงกว่าราชประสงค์ร้อยเท่า! อ.อ๊อดเตือน แหล่งน้ำในรัศมี 5 กม. อาจเป็นกรดอ่อน!

ระเบิด"โรงงานกิ่งแก้ว" รุนแรงกว่าราชประสงค์ร้อยเท่า! อ.อ๊อดเตือน แหล่งน้ำในรัศมี 5 กม. อาจเป็นกรดอ่อน!
Ingonn
5 กรกฎาคม 2564 ( 15:34 )
625

 

รายการเป็นเรื่องเป็นข่าววันนี้ นำเสนอประเด็นโกลาหล! ไฟไหม้โรงงานพลาสติกบางพลีกลางดึก ยังคุมเพลิงไม่ได้ หวั่นระเบิดซ้ำ โดยได้พูดคุยกับกู้ภัยในพื้นที่ และ รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงอันตรายของสารเคมีที่เกิดขึ้น

 


วันนี้ TrueID จึงได้สรุปประเด็นจากรายการสด "เป็นเรื่องเป็นข่าว" มาฝากทุกคนกัน เพื่อประชาสัมพันธ์การเฝ้าระวังจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมและเม็ดพลาสติกขนาดใหญ่บนเนื้อที่หลายสิบไร่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 15 ซอยกิ่งแก้ว 21 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

 

 

รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า สารเคมีที่เกิดขึ้นในโรงงานย่านกิ่งแก้ว เป็นการผลิตพลาสติก โฟม ฟองน้ำ โดยใช้เม็ดพลาสติกชื่อ EPS foam : Expandable Polystyrene นิยมนำไปใช้งานหลากหลายประเภท เช่น เม็ดโฟม โฟมแผ่น โฟมก้อน กล่องโฟม บรรจุภัณฑ์โฟม โฟมขึ้นรูป หรือโฟมก่อสร้าง และโฟม PSP: Polystyrene Paper ผลิตเป็นแผ่น นิยมใช้ทำถาด กล่อง บรรจุอาหาร

 

 

โดยอาจารย์วีรชัย เพิ่มเติมว่า


1.โฟม EPS  (eps foam) คือ โฟม PS ที่ใช้ก๊าซ Pentane(C5H12) ทำให้ขยายตัว เมื่อได้รับความร้อนจากไอน้ำ (Steam) จะกลายเป็นเม็ดโฟมขาว จากนั้นนำไปขึ้นรูปได้ 2 ลักษณะ คือ อัดเป็นรูปร่างตามแบบแม่พิมพ์ และอัดขึ้นรูปเป็นก้อนสี่เหลี่ยมโฟมก้อน แล้วจึงนำมาแปรรูปตัดเป็นโฟมแผ่นตามระดับความหนาที่ต้องการ

 

 

2. โฟม PSP คือ เม็ดพลาสติก PS ที่ผ่านสกรูความร้อน ในขณะที่เม็ดพลาสติกหลอมตัวจะให้ก๊าซ Butane(C4H10) ร่วมด้วย จน Polystyrene ขยายตัวประมาณ 20 เท่า จึงฉีดออกมาเป็นแผ่น จัดเก็บม้วนคล้ายกระดาษ จากนั้นจึงนำไปขึ้นรูปเป็นกล่อง หรือถาดใส่อาหาร

 

 

สันนิษฐานสาเหตุจากการลุกไหม้ครั้งนี้ ว่า 


1.ไฟได้มันลุกลามไปยังถังเก็บก๊าซ Butane(C4H10) และก๊าซ Pentane(C5H12) ซึ่งเป็นก๊าซตระกูลเดียวกับก๊าซหุงต้ม และเป็นถังใหญ่มากใช้ในการทำให้เกิดฟองอากาศ 

 


2.ไฟลุกลามไปเจอกับถังคาร์บอนเตตระคลอไรด์ (carbon tetrachloride) เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีสูตรทางเคมี CCl4 ใช้เป็นตัวทำละลายอินทรีย์

 

 

จากสองสาเหตุนี้ทำให้ไฟได้ลุกลามและรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อาจเกิดการระเบิดรอบ 2 ได้ หากควบคุมเพลิงได้ไม่ทัน และสารเคมีภายในโรงงานแห่งนี้ ยังเป็นสารเคมีอันตราย ที่เมื่อมีจำนวนมากขึ้น จะเกิดการฟุ้งกระจายคาร์บอนเหมือนฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของคนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง

 

 

โดยสารเคมีเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการเหม็นฉุน ระคายเคืองผิวหนัง ปวดแสบปวดร้อน รู้สึกเหมือนแผลพุพอง และในระยะยาวเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องสวมหน้ากากเต็มหน้าและสวมชุดป้องกันไฟและสารเคมี เพื่อป้องกันอันตราย โดยคาดว่าสารเคมีนี้ คือ "คาร์บอนเตตระคลอไรด์ (carbon tetrachloride) "

 

 

นอกจากนั้นอาจารย์วีรชัย ยังกล่าอีกว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร ควรรีบอพยพออกมาจากจุดเกิดเหตุ และทางกรมมลพิษควรเข้ามาตรวจสอบทิศทางลม ค่ามลพิษในอากาศ เพื่อประเมินสถานการณ์การกระจายของควันที่อาจนำพาสารเคมีลอยไปมากกว่านี้ เพราะอากาศในบริเวณที่เกิดเหตุถือว่าเป็นพิษแล้ว หากกระแสลมพัดดี พาฝุ่นควัน สารเคมีไปตกลงทะเล ก็สามารถเจือจางและหายไปได้

 

ขณะที่แหล่งน้ำประชาชนในรัศมีใกล้เคียงอาจไม่ปลอดภัย หากพบความกดอากาศต่ำ กดทับลงมาบริเวณหมู่บ้านหรือแหล่งน้ำนั้น อาจทำให้น้ำมีกรดอ่อนๆ เป็นพิษโดยตรงต่อร่างกาย แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิตในทันที

 

 

พร้อมทิ้งท้ายว่า "นี่คือระเบิดที่รุนแรงมาก คูณร้อยเท่าเทียบกับระเบิดราชประสงค์"

 

 

 

สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่นี่

 

 

 

 

 

ต้องการรับชมช่อง PPTV คลิกเลย!

 

 

 

 

สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ได้ทางช่อง PPTVHD กด 36 ทางโซเชียลมีเดีย Facebook, IG, Twitter PPTV HD 36  หรือทางเว็บไซต์ www.pptvhd36.com

 

 

ข้อมูลจาก รายการเป็นเรื่องเป็นข่าว PPTV , เฟซบุ๊ก Weerachai Phutdhawong

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง