อังกฤษเตรียมแบนพลาสติกห่อผักผลไม้ แม้ช่วยยืดอายุอาหารแต่ทำโลกอายุสั้น

ในระยะเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า “บรรจุภัณฑ์พลาสติก” สำหรับถนอมอาหารกำลังจะถูกแบนในอังกฤษ ซึ่งเป็นมาตรการใหม่ในการลดขยะพลาสติกที่ก่อให้เกิดปัญหามลพิษหลายด้าน โดยเริ่มจากการแบนถุงพลาสติกถนอมอาหารที่ใช้ใส่ผักและผลไม้สดจำนวน 21 ชนิด โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมเชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยลดขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งได้ถึง 13,000 ตันต่อปี สำหรับการแบนบรรจุภัณฑ์พลาสติกถนอมอาหารในเฟสแรกนี้จะมุ่งเน้นไปที่ผักและผลไม้สดที่เป็นพื้นฐาน เช่น แอปเปิ้ล กล้วย หอมหัวใหญ่ และมันฝรั่ง จากการประเมินขององค์กร Waste and Resources Action Programme หรือ WRAP ระบุว่าผลผลิตเหล่านี้มีเปลือกห่อหุ้มตามธรรมชาติอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้หีบห่อบรรจุภัณฑ์พลาสติกถนอมอาหารซ้ำอีก 

มาตรการล่าสุดนี้นอกจากจะช่วยลดขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดขยะอาหารในครัวเรือนลงได้ถึง 100,000 ตันต่อปี เนื่องจากผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลผลิตได้ตามที่ต้องการ แทนที่จะต้องซื้อแบบที่ขายในห่อพลาสติกจำนวนมากเกินความจำเป็นและไม่สามารถแบ่งขายได้ รายงานระบุว่าแต่ละครอบครัวต้องจ่ายเงินกว่า 1,000 ปอนด์ต่อปีไปกับอาหารเหลือทิ้งที่กลายเป็นขยะอาหาร ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปัจจุบันซูเปอร์มาเก็ตหลายแห่งวางขายผักและผลไม้ทั้งแบบบรรจุด้วยบรรจุภัณฑ์พลาสติกถนอมอาหารและแบบไม่ห่อพลาสติก

อย่างไรก็ตามมาตรการแบนบรรจุภัณฑ์พลาสติกถนอมอาหารที่ใช้สำหรับใส่ผักและผลไม้สดจะยังคงอยู่ในขั้นตอนหารือและเตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะ แต่หากมีการอนุมัติและนำไปบังคับใช้ ก็จะเป็นการปรับเปลี่ยนกฎเกี่ยวกับการใช้พลาสติกครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่การอนุมัติเก็บค่าถุงพลาสติกในปี 2015 และเป็นก้าวสำคัญของการเดินหน้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนที่ทั่วโลกมุ่งผลักดัน