รีเซต

ไม่เสี่ยงเพิ่มขึ้น! สธ.ยืนยัน นักท่องเที่ยวเข้าไทยต้องกักตัว 14 วัน

ไม่เสี่ยงเพิ่มขึ้น! สธ.ยืนยัน นักท่องเที่ยวเข้าไทยต้องกักตัว 14 วัน
TNN ช่อง16
16 กันยายน 2563 ( 15:12 )
147
ไม่เสี่ยงเพิ่มขึ้น! สธ.ยืนยัน นักท่องเที่ยวเข้าไทยต้องกักตัว 14 วัน

วันนี้ (16 ก.ย.63) ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่าวันนี้ มีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 10 ราย รวมสะสม3,490 ราย ใน 68 จังหวัด คงเหลือรักษาในโรงพยาบาล 116 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 10 ราย ได้เข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร 7 ราย ชลบุรี 2 รายและสมุทรปราการ 1 ราย มีรายละเอียดดังนี้ มาจากประเทศเยเมน 4 ราย มาจากประเทศอินเดีย 2 ราย มาจากประเทศอินโดนีเซีย 2 ราย มาจากประเทศเมียนมา 1 ราย มาจากประเทศเอธิโอเปีย 1 ราย

สถานการณ์ในไทยตอนนี้ ถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยรับและดูแลได้ อย่างไรก็ตาม  ประเทศไทยมีโอกาสกลับมามีผู้ป่วยได้อีกครั้ง ส่วนการระบาดระลอก 2 จะรุนแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการควบคุมโรคในประเทศจากทุกฝ่ายที่ช่วยกัน ยืนยันการระบาดระลอก 2 ไม่มีทางจะรุนแรงกว่ารอบแรก ซึ่งไทยยังคงเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา

ขณะเดียวกัน กรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ราย ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เข้าสถานกักกันของรัฐ มีเชื้อโควิด แล้วพบว่าเคยติดเชื้อแล้วก่อนหน้านั้นแล้ว นพ.ธนรักษ์ ระบุว่า  2 รายนี้ เคยติดเชื้อจากต่างประเทศ โดยโอกาสการติดเชื้อซ้ำในผู้ป่วยมีความเป็นไปได้ แต่จะน้อยมาก 

ส่วนประเด็นการติดเชื้อซ้ำจากผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อแล้วกลับมาติดซ้ำนั้น ที่ผ่านมาทั่วโลกมีจำนวนไม่มาก มีเพียงไม่กี่ราย เช่น ประเทศฮ่องกง คนไข้อายุ 33 ปี เคยติดเชื้อเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว และกลับมาติดซ้ำ โดยพบว่า เป็นเชื้อคนละตัวกัน เป็นเชื้อใหม่ และไม่แสดงอาการ ขณะที่ ประเทศสหรัฐเมริกา ที่มีการรายงานว่า ติดเชื้อซ้ำหลังติดเชื้อครั้งแรก 48 วัน ครั้งที่ 2 มีอาการปอดอักเสบ หรือใน เบลเยี่ยม รวมไปถึงเนเธอร์แลนด์ 

ทั้งนี้ โอกาสการติดเชื้อซ้ำ นพ.ธนรักษ์ ระบุว่า  มีความเป็นได้ แต่โอกาสจะไม่สูงมาก ค่อนข้างต่ำ  ส่วนอาการจะรุนแรงมากน้อยขนาดไหน ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล แต่ยังคงต้องติดตามศึกษากันต่อไปเนื่องจากเป็นโรคใหม่

ส่วนกรณีเด็ก 1 ราย ที่เดินทางจากไทยไปยังเมียนมา ซึ่งประเทศเมียนมา รายงาน พบติดเชื้อ โดยมีต้นทางมาจากอยุธยา เดินทางผ่านสะพานไทยมิตรภาพแห่งที่ 2 เบื้องต้นได้ประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมจากประเทศเมียนมา เพื่อนำมาสอบสวนโรคต่อในไทย 

ขณะที่ กรณีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศ นพ.ธนรักษ์ ระบุว่า  ประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญการป้องกัน นักท่องเที่ยวที่จะเข้าประเทศยังคงต้องกักกัน 14 วัน เหมือนกับที่ผ่านมาที่ให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องกักตัวในสถานกักกัน  

โดยถือว่า การเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศนั้น ไม่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเข้าประเทศไทย ก็ต้องทำตามขั้นตอน มีการส่งรายละเอียดการตรวจวสุขภาพจากประเทศต้นทางก่อนเข้าประเทศอยู่แล้ว 

ส่วนสถานการณ์อัตราป่วยผู้ติดเชื้อทั่วโลก ต้นสิงหาคมที่ผ่านมา จะเห็นว่าคงที่ เนื่องจากบางประเทศมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น เช่น สหรัฐอเมริกา แต่บางประเทศ ในแถบอเมริกาใต้ และอินเดีย พบว่า ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ส่วนประเทศในฝั่งตะวันตกเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ดี เช่น ประเทศสวีเดน ซึ่งไม่ใช้มาตราการล็อคดาวน์แต่สามารถควบคุมโรคได้ดี สถานการณ์ในประเทศอาเซียน ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย 

ขณะที่ สถานการณ์ประเทศเมียนมา ปลายเดือนสิงหาคม เมียนมากลับมาแพร่ระบาดเชื้ออีกครั้ง เริ่มจากรัฐยะไข่เรื่อยมาในหลายเมืองโดยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน และยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยยังคงน่าเป็นห่วง ในเมืองที่ใกล้ชิดกับชายแดนไทย หลังจากพบการแพร่ระบาดในเมืองเหล่านี้ ได้ให้ 10 จังหวัดที่อยู่ติดชายแดน ต้องคุมเข้มมาตรการด้านสาธารณสุข เฝ้าระวังในกลุ่มอาการโรคที่ต้องสงสัยโควิด-19 เช่น ในผู้ป่วยปอดบวมอักเสบไม่ทราบสาเหตุ  ขอความร่วมสถานประกอบงดรับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ระบุถึงมาตรการป้องกันโควิดในห้องสรรพสินค้า หลังจากผ่อนปรนมาตราการประชาชนออกมาใช้ชีวิตตามปกติในพื้นที่สาธารณสุขมากขึ้น โดยยังคงอยากให้ผู้ประกอบการห้าง คงมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดต่อไป ทั้งจุดคัดกรอง การทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม  ระบบการระบายอากาศ ย้ำประชาชนต้องใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกไปทำกิจกรรมภายนอก.

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง