รีเซต

ขอความเป็นธรรม! เจ้าอาวาสวัดดังขังตัวเองในกรงสุนัข

ขอความเป็นธรรม! เจ้าอาวาสวัดดังขังตัวเองในกรงสุนัข
TNN ช่อง16
14 สิงหาคม 2563 ( 10:09 )
314

เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อพบว่าที่บริเวณ วัดโคศุภราช ม.3 ต.คลองวัว อ.เมือง จ.อ่างทอง พระครูปลัดวิชาญ คมภีรปญโญ   เจ้าอาวาสวัด ได้ทำการขังตัวเองอยู่ในกรงสุนัข เพื่อขอความเป็นธรรม อ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง  โดนร้องเรียนเรื่องเปิดเครื่องขยายเสียง ทำให้เสียงดังสร้างความเดือดร้อนชาวบ้าน  โดย พระครูปลัดวิชาญ นั่งฉันท์ข้าว พร้อมกับสุนัข 1 ตัว ในกรงสุนัข และ มีชาวบ้านกว่า 100 คน มาขอร้องให้ออกจากรงแต่ไม่เป็นผล


พระครูปลัดวิชาญ เล่าให้ฟังว่า อาตมาอยากขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีคนแอบอ้างว่าเป็นประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน  นำเรื่องร้องเรียน กล่าวหาว่าอาตมาเปิดเครื่องเสียงรบกวนชาวบ้านทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน มีการร้องเรียน ถึง 4 วาระ และทางคณะสงฆ์ได้มีการตั้งคณะกรรมการ ตัดสิน โดยได้ลงมติว่า อาตมากระทำความผิดมาหลายครั้งแล้วและไม่มีพยานไม่มีหลักฐานว่าไม่มีความผิด จึงมีความเห็นสรุปว่า อาตมา ละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ โดยมีการลงโทษตำหนิโทษ 3 ปี

ถ้าภายในระยะเวลา 3 ปีมีอธิกรณ์เกิดขึ้นจะต้องโทษปลดจากเจ้าอาวาส  โดยใช้กฎหมายสาธารณสุข พ.ศ.2535 หมวด 5 เหตุรำคาญ มาตราที่ 25 (4) การกระทำใดๆเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่นละออง เขม่าเถ้าหรือกรณีอื่นใด  จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ  


ซึ่งในการประชุมไม่มีการไต่สวนว่าชาวบ้านคนใดได้รับความเดือดร้อน เอกสารที่อ้างอิงในการร้องเรียนมีข้อมูลที่ถูกต้องหรือเปล่า โดยในวันตัดสินได้มีชาวบ้าน ประมาณ 50 คนซึ่งเป็นชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณโดยรอบของวัด  เดินทาง ไปร่วมรับฟังด้วย แต่ไม่มีกาซักถามชาวบ้าน และมีการอ้างว่ามีการลงรายชื่อของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

จึงอยากทราบที่มาที่ไปและแสดงตัวตน ของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน  อาตมาอยากขอความเป็นธรรมให้มีการไต่สวนให้รอบคอบ โดยผู้ร้องเรียน ได้มีการระบุในคำร้องขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปิดบังชื่อไม่ให้เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ร้องเรียน โดยที่ผ่านมา อาตมาไม่เคยสร้างความเดือดร้อน ให้กับชาวบ้าน อาตมาบวชเรียน 28 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัด โคศุภราช 16 พรรษา ปฎิบัติตนตามหน้าที่ของเจ้าอาวาสมาโดยตลอด

อาตมาจะอยู่แบบนี้ ฉันท์ข้าวและจำวัดในนี้ โดยช่วงเช้า จะออกบิณฑบาตปกติเหมือนเดิม  ส่วนในเรื่องที่เปิดเครื่องเสียง อาตมาเปิด เกี่ยวกับเรื่องธรรมะและไม่เคยเปิดเสียงดังรบกวนใคร  จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ช่วยเหลือ ทบทวนการตัดสิน มีการไต่สวนให้รอบคอบ และหาความกระจ่างความชัดเจน ความถูกต้องในเรื่องนี้


ทางด้านนางนพรัตน์  ทองย้อย อายุ 61 ปี  และ ชาวบ้าน กว่า 100 คน ได้เดินทางมาที่วัดพร้อมขอร้องให้ทางเจ้าอาวาสออกมาจากกรงแต่ไม่เป็นผล ทางเจ้าอาวาสแจ้งว่า จะทำการอยู่ในกรงและจำวัดอยู่ภายในกรงต่อไปและจะออกในตอนเช้าเพื่อเดินไปรับบาตรจากญาติโยมเท่านั้น และจะกลับเข้ามาอยู่ในกรงเพื่อเป็นการขังตัวเอง  ซึ่งชาวบ้านต่างแสดงความคิดเห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการกลั่นแกล้ง ท่านเจ้าอาวาส เพราะที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา ที่ท่าน เป็นเจ้าอาวาส ได้พัฒนา วัด มาโดยตลอด  สร้างรายได้ มอบอาชีพให้กับชาวบ้าน เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน กรณีเรื่องราวที่กล่าวหาว่าเปิดเครื่องเสียงดัง ไม่เป็นความจริง ท่านเปิดแต่เพลงธรรมมะและเรื่องราว คำสอนต่างๆ  และยืนยันว่า ไม่มีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ชาวบ้าน อยากให้มีผู้ที่มีอำนาจหรือมีหน้าที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบ รายละเอียดและข้อเท็จจริง


เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง