รีเซต

บลจ.ทิสโก้สนใจลุยหุ้นจีน ยุทธศาสตร์ชาติหนุนเติบโต

บลจ.ทิสโก้สนใจลุยหุ้นจีน ยุทธศาสตร์ชาติหนุนเติบโต
ทันหุ้น
2 สิงหาคม 2565 ( 12:27 )
70

#บลจ.ทิสโก้  #ทันหุ้น บลจ.ทิสโก้ เสนอขายกองทุนทิสโก้ China Strategy (TCHSTRATEGY) เน้นลงทุนหุ้นจีนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทั้งกลุ่มอุปโภคบริโภค-ไบโอเทคโนโลยี –เซมิคอนดักเตอร์ และพลังงานสะอาด (Clean Technology) เปิด IPO 1 - 9 ส.ค. 65

 

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่าประเทศจีน” มหาอำนาจยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของโลก มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงในระยะยาว โดยในช่วงปี 2564 - 2568 รัฐบาลจีนจะเดินหน้านโยบายต่างๆ ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14 

 

โดยตั้งเป้าจะยกระดับประเทศในหลายมิติ เช่น ยกระดับการบริโภคในประเทศ (Domestic Consumption) โดยลดการพึ่งพาตลาดต่างประเทศ เพื่อให้การบริโภคในประเทศขยายตัวขึ้น และวางเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5.0 ทั้ง 5G, AI, Internet of Things, Semiconductors และ Smart Cities ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีนยังมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว

 

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ (Healthcare) ผ่าน “Healthy China 2030 Plan” ด้วยการพัฒนาคุณภาพยาร่วมกับต่างชาติ เพิ่มความคล่องตัวในการอนุมัติยาตัวใหม่ ตลอดจนเพิ่มงบประมาณในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในอุตสาหกรรม Healthcare โดยในช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 17.7% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียงแค่ราว 4.5% ต่อปี 

 

สำหรับนโยบายด้านพลังงานนั้นรัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจีนจะต้องเป็นประเทศที่ “ปลอดคาร์บอน” ให้ได้ภายในปี 2603 ส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการเพิ่มกำลังการผลิต รวมถึงอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ สถานีชาร์จและรถยนต์ไฟฟ้า

 

ดังนั้น เพื่อให้นักลงทุนไม่พลาดทุกอุตสาหกรรมที่เป็นเรือธงของเศรษฐกิจจีน บลจ.ทิสโก้จึ่งเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ China Strategy (TCHSTRATEGY) ระดับความเสี่ยง6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของประเทศจีน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในด้านต่างๆ รวมถึงบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกับทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนในระยะยาว เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) 1 - 9 สิงหาคม 2565

 

“ ปัจจุบันกองทุนหลักจะกระจายการลงทุนไปยัง 4 กลุ่มธุรกิจของจีน เช่น กลุ่มอุปโภคบริโภค (Consumption) ได้ประโยชน์โดยตรงจากพลังผู้บริโภค 1,400 ล้านคนของจีน กลุ่มธุรกิจไบโอเทคโนโลยี (Biotechnology) ได้ประโยชน์จากรัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจเฮลธ์แคร์ และการเข้าสู่สังคมสูงอายุของจีน กลุ่มธุรกิจสารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) ได้ประโยชน์จากการสนับสนุนเทคโนโลยี ซึ่ง Semiconductor เป็นเมล็ดพันธุ์ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่แทรกซึมอยู่ในทุกอุปกรณ์ เช่น จอแสดงผลโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึง วงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย และสุดท้ายคือพลังงานสะอาด (Clean Technology) ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากแผนพัฒนาฯ ทำให้นักลงทุนไม่พลาดทุกโอกาสการเติบโตของจีน โดยกองทุนจะปรับเปลี่ยนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงทุนไปตามภาวะตลาด” นายสาห์รัชกล่าว

 

สำหรับตัวอย่างบริษัทที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุน เช่น  WuXi Biologics (Cayman) Inc.  ผู้นำด้านยาและเวชภัณฑ์รายใหญ่ของจีน ผู้พัฒนาและวิจัยยาจากสารชีวภาพ ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) มีสำนักงานอยู่ทั้งในจีนและต่างประเทศ โดยข้อมูลจากคาดการณ์นักวิเคราะห์ใน Bloomberg Consensus วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 คาดว่า ในปี 2565 บริษัทจะมีรายได้เติบโต 39% เมื่อเทียบปีก่อน (YOY) และปี 2566 รายได้จะเติบโต 38% YOY

 

บริษัทต่อมาคือ NAURA Technology Group บริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์ Semiconductor รระดับ High End อุปกรณ์ระบบแบตเตอรี่พลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศจีน ข้อมูลจากคาดการณ์นักวิเคราะห์ใน Bloomberg Consensus วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 คาดว่า ในปี 2565 บริษัทจะมีรายได้เติบโต 39% เมื่อเทียบปีก่อน (YOY) และปี 2566 รายได้จะเติบโต 34% YOY

 

และ China Yangtze Power Co Ltd ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานทดแทนรายใหญ่ของจีน ข้อมูลจาก คาดการณ์นักวิเคราะห์ใน Bloomberg Consensus ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 คาดว่า ในปี 2565 บริษัทจะมีรายได้เติบโต 5% เมื่อเทียบปีก่อน (YOY) และปี 2566 รายได้จะเติบโต 10% YOY

 

พิเศษสำหรับลูกค้าที่มียอดเงินลงทุนในกองทุน TCHSTRATEGY ตั้งแต่วันที่ 1 - 9 สิงหาคม 2565 ตั้งแต่ 10 – 19.99 ล้านบาท รับทองคำหนัก 1 สลึง และยอดเงินลงทุนสะสมตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป รับทองคำหนัก 2 สลึง (1 สิทธิ ต่อ 1 ท่าน) ต่อที่สอง สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ลงทุนกองทุน TCHSTRATEGY ผ่านช่องทาง eInvest และ TISCO My Funds ตั้งแต่วันที่ 1 - 9 สิงหาคม 2565 ทุกๆ ยอดเงินลงทุนสะสม 50,000 บาท รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสั้น (TISCOSTF) มูลค่า 100 บาท สูงสุด 1,000 บาท

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง