DELTA โบรกฯ ชี้ดีขึ้นตั้งแต่ Q2/67 รับผลดียอดขาย EV ฟื้น-เทรนด์ Gen AI หนุน
#ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย ส่องหุ้น DELTA เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ฝ่ายวิจัยจัดงาน KS C-Series โดยเชิญนักลงทุนสัมพันธ์ของ DELTA เข้าร่วมงาน โดยรวมใจความสำคัญสอดคล้องกับความคาดหวังของฝ่ายวิจัย ซึ่งเชื่อว่ากำไรไตรมาส 1/67 น่าจะต่ำที่สุดของปีนี้ และคาดว่ารายได้จะเริ่มเติบโต QoQ ตั้งแต่ไตรมาส 2/67 เป็นต้นไป ตามการฟื้นตัวของยอดขาย EV ทั่วโลกและงบลงทุนสำหรับ Hyperscaler ที่เพิ่มขึ้น คงคำแนะนำ “ถือ” และ TP เดิมที่ 79.00 บาท คาดว่า DELTA จะได้ประโยชน์จากเทรนด์ Gen AI แต่ต้องแบ่งรายได้ให้บริษัทแม่
เหตุการณ์สําคัญเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ฝ่ายวิจัยจัดงาน KS C-Series โดยเชิญนักลงทุนสัมพันธ์ของ DELTA เข้าร่วมงาน ผลตอบรับเป็นไปในเชิงบวกโดยมีผู้จัดการกองทุนในประเทศเข้าร่วมงานมากกว่า 40 คน ประเด็นสําคัญจากงานครั้งเป็นไปในเชิงบวกเล็กน้อย แต่ค่อนข้างสอดคล้องกับความคาดหวังของฝ่ายวิจัย
กําไรไตรมาส 1/2567 แตะระดับต่ำสุดแล้ว บริษัททฯ ยังคงเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 10-20% และคาดว่าอัตรากําไรขั้นต้น (GPM) จะยังคงอยู่ที่ประมาณ 23% ซึ่ง DELTA คาดว่าแนวโน้มการเติบโตในครั้งหลังของปี 2567 จะดีขึ้นกว่าในครึ่งปีแรก โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการของลูกค้ารายใหญ่ ทั้งในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และศูนย์ข้อมูล (data center) สําหรับไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ คาดว่ารายได้จะเติบโตเล็กน้อย แต่ GPM น่าจะปรับดีขึ้นอย่างมากจาก Q1/67 โดยได้รับแรงหนุนจาก 1) การไม่มีการตั้งสํารองสําหรับวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจํานวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 2) เงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายในสกุลเงินบาทเพิ่มขึ้น
ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโต บริษัทฯ เชื่อว่าปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ในปี 2567 จะมาจากยอดขาย EV ทั่วโลก และการลงทุนใน data center แม้ว่ายอดขาย EV ทั้งโลกจะลดลง 21% QoQ แต่อัตราการเติบโตยังอยู่ที่ 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ฝ่ายวิจัยเชื่อว่ายอดขาย EV ทั่วโลกอาจกลับมาเติบโต QoQ ได้ในไตรมาส 2/2567 ขณะที่ข้อมูลของ EV Volumes ระบุว่ายอดขาย EV ปี 2567 จะอยู่ที่ 16.6 ล้าคัน เพิ่มขึ้น 17% YoY และคิดเป็นส่วนแบ่งที่ 19.2% ของตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งประมาณการถูกปรับลง 1.2 ล้านคัน เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ครั้งก่อน
สําหรับธุรกิจ data center ฝ่ายวิจัยเชื่อว่ายอดขายอาจเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไป เนื่องจากงบลงทุน (capex) ด้านเทคโนโลยีทั่วโลกเร่งตัวขึ้น ขณะที่ Hyperscalers รายงานผลประกอบการที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 1/2567 และตั้งเป้าการเติบโตของ capex ทีแข็งแกร่งในปี 2567 จากการลงทุนในแพล็ตฟอรม์ และแอปพลิเคชัน AI
DELTA เป็นบริษัทเดียวในกลุ่มที่มีธุรกิจเกี่ยวกับ Gen AI ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า DELTA คือผู้ได้รับอานิสงส์หลักจากเทรนด์ AI ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย ณ ปัจจุบัน รายได้จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับ AI อยู่ที่น้อยกว่า 5% ของรายได้ทั้งหมด แต่บริษัทฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปี 2567 ผลิตภัณฑ์ของ DELTA ที่เกี่ยวข้องกับตัวแปลง DC/DC และอุปกรณ์จ่ายไฟ ซึ่งใช้เซิร์ฟเวอร์ Gen AI กับ GPU ที่ใช้พลังงานสูง ขณะที่ power solution ถูกนำมาใช้ใน Gen AI และ data center แบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม กําไรสุทธิจากผลติภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเหล่านี้อาจถูก จํากัด เนื่องจากถูกพัฒนาโดยบริษัทแม่ในไต้หวัน ซึ่งกําหนดให้ DELTA ต้องชำระค่าบริการด้านเทคนิค
คงคําแนะนํา “ถือ” และคงราคาเป้าหมายกลางปี 2568 เดิมที่ 79.00 บาท ฝ่ายวิจัยเชื่อว่ากําไรได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 1/2567 และในไตรมาส 2/2567 อาจเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งเชิง YoY และ QoQ ราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัยอิงตามเป้า PER ที่ 47 เท่า หรือเท่ากับ -0.25SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของกําไรปกติจะอยู่ที่ 13% ในระหว่างปี2567-69