เงินบาทแข็งมีเงื่อนงำ วัดใจแบงก์ชาติแก้เกม

#บาทแข็ง #ทันหุ้น – “รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์” ชี้ บาทแข็งค่าผิดปกติ เจอทุนเทาแปลงสินทรัพย์เป็นทองส่งออก แนะหาทางสกัด ขณะที่ "อินโนเวสท์ เอกซ์" มองมีสิทธิเห็นเลข 30 บาทต่อดอลลาร์ ต้องเซอร์ไพร์สลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน ด้าน “นายกสมาคมนักวิเคราะห์” รับต่างชาติแห่เก็งบาทจนรวยหวังขายทำกำไร ชี้ไทยมีข้อจำกัดแก้ปัญหาค่าเงิน
รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคและการบริหารภาครัฐ อาจารย์ประจำคณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าครั้งนี้ผิดปกติ เนื่องจากปกติแล้วการแข็งค่าของเงินจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆ คือ การส่งออกสินค้าจำนวนมาก การท่องเที่ยวที่นำดอลลาร์เข้ามา และการโยกเงินเข้ามาลงทุนจำนวนมาก แต่สิ่งที่เกิดปัจจุบันทั้ง 3 ปัจจัยยังมีปัญหาอยู่
มีเพียงประเด็นด้านการส่งออกทองคำเท่านั้น ที่ปีนี้ไทยส่งออกสูงมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ตัวเลขการส่งออกช่วง 2–3 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มสูงผิดสังเกต โดยมีปลายทางบางส่วนไปยังกัมพูชา ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับเงินเทา ที่เปลี่ยนรูปแบบเป็นทองคำและส่งออก ประกอบกับการที่ราคาทองคำมีผลตอบแทนสูงมากกว่า 50% ทำให้นักลงทุนหันเข้ามาลงทุนทองเป็นจำนวนมาก พบว่ามูลค่าการเทรดทองคำของบริษัทค้าทองรายใหญ่สูงกว่างบประมาณรายจ่ายของไทยราว 3.7 ล้านล้านบาท โดยการส่งออกทองคำไม่ได้สร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจไทย
ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จำเป็นที่จะต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะเป็นอุปสรรคระยะยาวต่อการส่งออก ท่องเที่ยว ที่จะซ้ำเติมเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง การยุบสภา ทำให้มาตรการการคลังไม่สามารถดำเนินการได้
ในเชิงปฏิบัติของ ธปท. อาจจะลดดอกเบี้ย แต่จะได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันที่ 1.25% หมายความว่าไทยจะเหลือกระสุนในการลดดอกเบี้ยเพียง 5 ครั้ง จำเป็นต้องใช้มาตรการอื่น เช่นต้องมีการจูงใจให้ถือดอลลาร์ ซึ่งวิธีการให้ซื้อขายทองคำเป็นดอลลาร์นั้นใช้ได้ แต่หากผู้นำเข้า ส่งออกทองคำเป็นคนละรายก็อาจจะทำได้ยาก ขณะเดียวกันในด้านตลาดทุนต้องมีการจูงใจให้มีการปรับเปลี่ยนจากการลงทุนทองคำเป็นลงทุนหุ้นให้ได้ ที่สำคัญต้องติดตามทุนสีเทาและการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์อย่างจริงจัง ทั้งการแลกเปลี่ยนเป็นทองคำเพื่อส่งออกกลับ รวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินในตลาดทุนไทย
@ เสี่ยงหลุด 31 บาท
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ (Head of Economic Research) ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า เกิดขึ้นท่ามกลาง "นโยบายการเงินที่ตึงตัว" ของไทย แม้ว่าไทยเพิ่งจะลดดอกเบี้ยมาเหลือ 1.25% แล้วก็ตาม แต่หากพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ซึ่งคํานวณจากดอกเบี้ยนโยบายหักลบด้วยเงินเฟ้อ พบว่าไทยอยู่ที่ประมาณ 2% สูงกว่าสหรัฐที่อยู่ 0.6% นอกจากนี้ยังมีปัจจัยการเก็งกำไร การส่งออกทองคำของร้านทองขนาดใหญ่ รวมถึงการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเล็กน้อย
สถานการณ์เงินบาทในปัจจุบันถือว่าเป็นการ แข็งค่าที่สุดในรอบกว่า 4 ปี และคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่องจน หลุด 31 บาทต่อดอลลาร์ และอาจลงไปแตะระดับ 30 บาทได้ในช่วงต้นปีหน้า ทางออกที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ การลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน เพราะมองว่ามาตรการ ที่ ธปท. นำมาใช้ในปัจจุบัน เช่น การขอชื่อคนซื้อทอง หรือแนวคิดเรื่อง USDT ยังไม่เห็นผลชัดเจนและไม่เพียงพอ และควรเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยนักลงทุนอาจจะต้องทำใจเนื่องจากแนวโน้มบาทแข็งค่าค่อนข้างชัดเจนหากยังไม่มีการลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน ทั้งนี้ยอมรับว่ากลุ่มที่มีหนี้ต่างประเทศจำนวนมากจะได้รับอานิสงส์จากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ต้องตรวจสอบตัวเลขกระแสเงินสดจริงว่าได้คืนหนี้หรือไม่ ไม่ใช่ดูเพียงแค่กำไรทางบัญชี
@ ต่างชาติเข้าเก็งค่าเงิน
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าในปัจจุบันมาจากเม็ดเงินเก็งกำไรเป็นหลัก ซึ่งในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า โบรกเกอร์ต่างประเทศหลายแห่งได้มีการออกบทวิเคราะห์จำนวนมาก แนะนำให้ลูกค้า "เก็งกำไรค่าเงินบาท" อย่างไรก็ดีปัจจุบันค่าเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดหนึ่งแล้ว กลุ่มนักลงทุนที่ทำตามคำแนะนำดังกล่าวได้รับกำไรไปพอสมควร ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าโบรกเกอร์อาจจะเริ่มแนะนำให้ลูกค้าทำกำไร
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่านั้น ไม่ได้มาจากเรื่องดอกเบี้ย แต่เกิดจากปัจจัยภายนอก คือ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากทิศทางดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐ และการเตรียมเปลี่ยนตัวประธานธนาคารกลางสหรัฐ ที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ความเชื่อมั่นในดอลลาร์ลดลง นอกจากนี้ราคาทองคำพุ่งที่สูงขึ้น ทำให้คนแห่ขายทอง ทำให้ร้านทองจำเป็นต้องส่งออกไม่งั้นต้องแบกรับความเสี่ยง ซึ่งจะรับเป็นเงินดอลลาร์ก่อนขายทิ้งเพื่อซื้อเงินบาท ทำให้บาทแข็งค่าขึ้น
ท่ามกลางที่การแก้ปัญหาค่าเงินบาทของไทยมีข้อจำกัด ทั้งในด้านการ "ลดอัตราดอกเบี้ย" ที่ไม่ช่วยให้บาทอ่อนค่าลง เนื่องจากดอกเบี้ยไทยอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว ส่วนการแทรกแซงค่าเงินก็มีความกังวลว่าจะถูกสหรัฐ จัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่บิดเบือนค่าเงิน ทางออกที่ ธปท. กำลังพยายามทำคือการบริหารจัดการเงินดอลลาร์จากกำไรการขายทองคำไม่ให้ไหลกลับมาเป็นเงินบาทโดยตรง แต่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ
อย่างไรก็ดีในระยะสั้นบาทอาจแข็งค่าต่อตามทิศทางดอลลาร์และทองคำ แต่ในระยะยาว พื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแอ จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงได้ แนะนำลงทุนสำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรค่าเงินไปแล้ว อาจถึงจังหวะที่ต้องเริ่มพิจารณาขายทำกำไร เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาถึงจุดที่นักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มปิดสถานะ
ส่วนหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากบาทแข็ง ได้แก่ กลุ่มค้าปลีกไอที (IT Retail) เช่น ร้านขายมือถือที่นำเข้าสินค้า และ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Data Center)
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
