รีเซต

กลยุทธ์ลงทุนหุ้นอิเล็ก DELTA เหมาะเก็งกำไร

กลยุทธ์ลงทุนหุ้นอิเล็ก DELTA เหมาะเก็งกำไร
ทันหุ้น
23 ธันวาคม 2568 ( 02:45 )

วานนี้หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นยกแผง ตลาดหุ้นเทคสหรัฐ  นำโดย บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ  DELTA วานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงตั้งแต่เปิดการซื้อขายในช่วงเช้าและค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยกลับมาปิดตลาดที่ระดับสูงสุดของวันที่ 182 บาท เพิ่มขึ้น 13 บาท หรือ 7.69% มูลค่าซื้อขายอันดับ1ที่ 3,165.92 ล้านบาท

นายนภนต์ ใจแสน รองผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ไทย เป็นการปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐ โดยเฉพาะกระแสเรื่อง AI ซึ่ง DELTA เป็นตัวหลักที่ฟื้นตัวขึ้นมา หลังจากก่อนหน้านี้ได้รับแรงกดดันจากการปรับพอร์ตของกองทุน และราคาหุ้นต่างประเทศที่ลดลง

@ระยะสั้นดูดี

โดยแม้ปัจจัยพื้นฐานในระยะสั้นจะดูดี แต่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า และรายการพิเศษ อย่าง ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับทางไต้หวัน ในช่วงไตรมาส 4/2568 โดยหุ้น DELTA ถือเป็นหุ้นตัวเดียวในกลุ่มที่เหมาะสมกับธีม AI และ Data Center  ดังนั้นจังหวะการลงทุนคาดว่าจะเห็นความชัดเจนหรือการรีบาวด์ที่ดีอีกครั้ง ในช่วงครึ่งหลังของเดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2569 เพื่อรอความชัดเจนเรื่องงบประมาณและข้อความสำคัญจากบริษัท

ในส่วนกลุ่มหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ที่อ้างอิงกับตลาดรถยนต์ ช่วงต้นปีอาจยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจน เนื่องจากมีการแข่งขันที่รุนแรงจากรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนที่บุกตลาดทางยุโรปมากขึ้น ซึ่งผู้ผลิตในไทยอยู่ในซัพพลายเชนของ OEM ฝั่งยุโรปมากกว่าจีน จึงได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และปัญหาความขัดแย้งเรื่องชิประหว่างจีนกับยุโรป

ขณะที่หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มตลาดสมาร์ทโฟนและ PC มีแนวโน้มชะลอตัวในปีหน้า เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลนหน่วยความจำ (Memory Shortage) เพราะถูกนำไปใช้ในฝั่ง AI มากขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อยอดการผลิต จึงคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มนี้จะเห็นได้ในช่วง ปลายไตรมาส 2 หรือครึ่งหลังของปีหน้า

@ค่าบาทกดดัน

ทั้งนี้ความเสี่ยงที่ต้องระวังสำหรับการลงทุนหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ คือเรื่องของค่าเงินบาท หากบาทแข็งค่ามากจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มนี้อย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้น รวมถึงเศรษฐกิจโลก หากเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวตามที่ตลาดคาดการณ์ จะกระทบต่อความต้องการซื้อในตลาดโลก ขณะที่ราคาหุ้นไทยมักจะปรับตัวลงแรงตามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในต่างประเทศ

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด กล่าวว่า  ผลงานของหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ไทยยังไม่ได้ดีทุกตัว แม้หุ้นสหรัฐจะมีการรีบาวด์กลับขึ้นมาบ้างแล้ว ซึ่งลักษณะการลงทุนยังคงเป็นการลงทุนแบบเก็งกำไร มากกว่าการลงทุนระยะยาว เนื่องจากราคาหุ้นหลายตัวได้สะท้อนความเชื่อในอนาคตไปมากจนเกินปัจจัยพื้นฐานในปัจจุบัน

@DELTA เด่นสุด

โดยหุ้น DELTA เป็นหุ้นตัวเดียวที่แนะนำ โดยมีผลประกอบการในไตรมาส 4/2568 ที่อยู่ในเกณฑ์ดีและมีพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม แต่จุดที่ต้องระวัง คือ DELTA ถูกถอดออกจากดัชนี ESG และมีประเด็นเรื่อง Cash Balance รวมถึง Valuation ที่ถือว่าแพงมากเมื่อเทียบกับตัวอื่น กลยุทธ์การลงทุน DELTA แนะนำให้เก็งกำไรในกรอบ โดยมีแนวรับสำคัญที่เส้น 200 วัน มีแนวรับประมาณ 155-166 บาท หากรับความเสี่ยงได้อาจเข้าที่ 170 บาท และมีแนวต้านที่ 185 บาท

ส่วน KCE และ HANA แนะนำให้ "รอปีหน้า" เนื่องจากสัญญาณทางธุรกิจยังไม่โดดเด่น และคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3-4/2568 จะยังไม่ค่อยดี แต่ KCE อาจจะพอลุ้นได้บ้างเพราะธุรกิจกลุ่มยานยนต์ ได้ปรับตัวลงมาล่วงหน้าแล้ว  ขณะที่ CCET พยายามปรับทิศทางธุรกิจให้เชื่อมโยงกับ AI และธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูงตามรอย DELTA แต่ผลประกอบการปัจจุบันยังไม่สนับสนุนทิศทางดังกล่าว และยังทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่เคยให้แนวทางไว้

อย่างไรก็ดีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ เงินบาทที่แข็งค่ามาก ระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์ เป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุด เพราะจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำไรสุทธิของบริษัทในกลุ่มนี้ที่เป็นผู้ส่งออกหลักในไตรมาสที่ 4/2568

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง