PRMอัดงบขยายกองเรือ ชูโค้งท้ายเด่นดีมานด์พุ่ง

#PRM #ทันหุ้น – PRM เดินหน้าขยายกองเรือเพิ่ม 6 ลำ คาดใช้เงินลงทุนราว 1,000 ล้านบาท รองรับปริมาณลูกค้าปี 2568 ที่เพิ่มขึ้น พร้อมประเมินแนวโน้มไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ผลงานดี รับสัญญาณบวกการขนส่งเพิ่มขึ้น ความต้องการน้ำมันสูง หนุนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมัน มั่นใจรายได้ปีนี้ทำนิวไฮต่อเนื่องแน่นอน
นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในช่วงปี 2568 บริษัทจะเดินหน้าขยายกองเรือ เพื่อรองรับดีมานด์ของลูกค้า ซึ่งได้ทยอยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 เป็นต้นไป โดยเตรียมต่อเรือใหม่เพิ่ม 6 ลำ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือประมาณ 200 ล้านบาทต่อลำ โดยอยู่ระหว่างพิจารณาประเภทเรือ และอัตราผลตอบแทน ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีกองเรือทั้งหมด 64-65 ลำ และคาดว่าในปี 2568 กองเรือจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 70 ลำ
*โค้งท้ายผลงานเด่น
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/2567 ของธุรกิจของ PRM บริษัทมองว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมในครึ่งปีหลังคาดว่าธุรกิจมีแนวโน้มจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เริ่มตั้งแต่ธุรกิจ Offshore Support Vessels (OSV) มีแนวโน้มเติบโตในทิศทางดีหลังมีการขยายกองเรือตั้งแต่ต้นปี 2567 ภายใต้สัญญาระยะยาวสอดคล้องกับกิจกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มกำลังการผลิตในอ่าวไทย และบริษัทมองว่าในปี 2568 คาดว่า ธุรกิจ OSV จะเติบโตเพิ่มมากขึ้น และบริษัทยังมีแผนลงทุนกับธุรกิจดังกล่าวเพิ่มเติม ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณา
ขณะที่ธุรกิจเรือกักเก็บและผสมน้ำมันกลางทะเล (FSU) ในช่วงที่เหลือของปีก็มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของดีมานด์ การใช้เรือที่มีถังจัดเก็บสินค้าขนาดใหญ่ของเรือ FSU โดยบริษัทอยู่ระหว่างมองหาเรือเพิ่มเพื่อต่อยอดขีดความสามารถให้กับธุรกิจเรือ FSU ในปี 2568 ส่วนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมี (PCT) คาดจะมีการเติบโตที่ดี เนื่องจากดีมานด์ในช่วงสิ้นปีจะเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซันของภาคการท่องเที่ยวหนุนอัตราการใช้เรือเติบโตอย่างมาก
ส่วนรายได้รวมปีนี้บริษัทก็คาดว่าจะสามารถทำนิวไฮให้ได้ต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้ 8,086.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.82%เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 7,715.40 ล้านบาท
*ดีลซื้อธุรกิจใหม่
นอกจากนี้บริษัทยังเพิ่มไลน์ธุรกิจใหม่เพื่อสร้างการเติบโตโดย การเข้าซื้อกิจการผู้ให้บริการตัวแทนออกของ(Shipping & Ship Agent) มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ซึ่งธุรกิจดังกล่าวจะเข้ามาเสริมธุรกิจหลัก และต่อยอดการเติบโตได้เป็นอย่างดี รวมถึงทำให้บริษัทได้มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากกลุ่มปิโตรเลียม อาทิ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการนำเข้าส่งออกเพิ่มมากขึ้น และอยู่ระหว่าง พิจารณาการเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องอีกเพื่อสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตมากยิ่งขึ้นในอนาคต
*เชียร์ซื้อเป้า 10.30 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่าแนวโน้มกำไรของ PRM ในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากเรือใหม่และการเข้าอู่ซ่อมบำรุงลดลง โดยแนวโน้มกำไรจะเริ่มเข้ามาระหว่างในปี 2567 และเรือ FSO ที่กลับมาทำงานปลายปี 25667 ได้เต็มปี 2568, เรือเข้าอู่ซ่อมลดลง ที่ 26-28 ลำ และไม่มีเรือใหญ่เข้าอู่, M&A และการซื้อโครงการในช่วงไตรมาสที่ 4/2567, เรือใหม่ Aframax และ FSU เป็นเรือขนาดใหญ่ที่อาจรับในไตรมาสที่ 42567หรือเลื่อนมาในปี 2568, วันที่ 2 สิงหาคม 2567 ได้สั่งต่อเรือ Crew Boat ใหม่ 2 ลํา รับในเดือนมีนาคม และกรกฎาคม 2568 และปลายปี 2567 จะมีสั่งต่อเรือใหม่กลุ่ม PCT จํานวน 6 ลํา รับมอบปลายปี 2568 ปรับราคาพื้นฐานเป็น 10.30 บาท อิง P/E 10 เท่ายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”