แผนCBGนิวไฮไม่เลิก อัพกำลังปั้นมาร์จิ้นสูง
ทันหุ้น-แม่ทัพ CBG “เสถียร”เผยเหตุกำไรนิวไฮ ออเดอร์ตปท.ติดลมบนโตไม่หยุด ในประเทศ Q4 ถึงซีซั่น ชี้มาร์จิ้นสูงจากผลิตเอง ชี้กำลังผลิตเต็มร้อย เตรียมอัพเพิ่ม ทั้งกระป๋อง ขวด และผลิตลัง เล็งออกสินค้าวิตามินเพิ่ม ส่วนวู้ดดี้ ซี+ล็อคคลอด Functional Drinksใหม่ปี 2564 แรงอีกตามดีมานด์โบรกชี้จากนี้นิวไฮต่อเนื่อง เป้า 170 บาท
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 4/2563 จะดีกว่าไตรมาส 3/2563 เนื่องจากปกติไตรมาส 4จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดที่มียอดขายจำนวนมาก อีกทั้งที่ผ่านมามีการเพิ่มประสิทธิภาพสายการผลิตที่มีเทคโนโลยีทันสมัยตั้งแต่โรงผลิตขวดแก้วและกระป๋องอลูมิเนียมไปจนถึงโรงบรรจุสินค้าสำเร็จรูป เอื้อหนุนต่อประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด ทำให้อัตรากำไรดีขึ้นต่อเนื่อง และเชื่อว่าปัจจัยบวกดังกล่าวจะส่งผลดีต่อเนื่องไปถึงปีหน้า
*ต่างประเทศโตแรง
ส่วนตลาดต่างประเทศก็มีการเติบโตที่ดี ทั้งในเมียนมาร์ ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ส่วนในประเทศกัมพูชาและเวียดนาม มียอดขายที่ดี เพราะเครื่องดื่มชูกำลังของไทยได้ความนิยมอย่างมาก ทำให้เชื่อว่าปีนี้ยอดขายจากต่างประเทศในปีนี้ยังเติบโตได้ 25% ตามเป้าหมายทั้งนี้ตลาดต่างประเทศยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม CLM ซึ่งเมื่อขายได้ปีละ 300 ล้านยูนิตก็จะติดลมบนและจะโตกระโดด 50% ได้ง่ายๆ แต่ในส่วนประเทศจีนบริษัทกำลังพยายามทำยอดขายได้ราวปีละ 1,000 ล้านยูนิต เพื่อติดลมบนซึ่งตลาดจีนใหญ่กว่าไทยหลายเท่า
สำหรับปี 2564 บริษัทเชื่อว่าผลประกอบการจะเติบโตแรงต่อเนื่อง ทั้งจากตลาดในประเทศและต่างประเทศ แม้ว่าปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจะติดลบ โดยปีนี้มีการติดลบกว่า 7% แต่บริษัทสามารถทำผลประกอบการได้ดีกว่า ตลาดจากการทำการตลาดที่ดี รวมไปถึงการที่บริษัทได้นำสินค้าไปวางจำหน่ายผ่านร้าน CJ ทำให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก
@อัพผลิตเองปั้นมาร์จิ้นอีก
สำหรับอัตรากำไรสุทธิที่สูงถึง 22% ของบริษัทนั้น เกิดจากการที่บริษัทนำบรรจุภัณฑ์มาผลิตเอง ซึ่งประหยัดได้เยอะมาก ขณะนี้ใช้กำลังผลิตเต็ม 100% แล้ว โดยปีหน้าบริษัทจะมีกำลังการผลิตใหม่ของโรงงานขวดแก้วเพิ่มอีก 300 ล้านขวดต่อปี และกำลังการผลิตกระป๋องเพิ่มอีก 300 ล้านกระป๋องต่อปี โดยเครื่องจักรคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จช่วงเดือน มกราคม 2564
ขณะเดียวกันบริษัทก็อยู่ระหว่างดำเนินการในเรื่องของโรงงานกล่องคาดว่าจะแล้วเสร็จปีหน้าเช่นเดียวกัน ซึ่ง โรงงานกล่องนี้จะมาช่วยลดต้นทุน เพิ่มกำไรปีละ 200-300 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีความต้องการใช้กล่องอยู่ที่ราวเดือนละ 6-7 ล้านลังต่อเดือน หรือคิดเป็น 70% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ส่วนกำลังการผลิตที่เหลือจะเป็นรับจ้างผลิตให้แก่ลูกค้ารายอื่น
@ออกสินค้าเพิ่ม
ส่วนแผนการออกสินค้าใหม่ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะออกสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงค์ เป็นเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์วู้ดดี้ ซี+ ล็อค แต่จะเป็นกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงาม
ขณะที่วู้ดดี้ ซี+ ล็อค เดิมปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ที่ 9% คาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 12%โดยปีนี้คาดว่าจะทำยอดขายได้ 80-100 ล้านขวด ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะออกสินค้าในกลุ่มที่เป็นวิตามิน เป็นน้ำที่มีการแต่งกลิ่นรสชาติ แต่ไม่ใส่สี ซึ่งจะใช้ขวดPETเป็นบรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้คาดว่าจะวางจำหน่ายได้ในปี 2565 หรือใช้เวลาในการทำการพัฒนาราว 1 ปี เพิ่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างมาก ในการพัฒนาสินค้าใด จะต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และได้รับการยอมรับ
@นิวไฮได้อีกเป้า 170 บ.
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง CBG ว่า ยังคงแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมาย 170.00 บาท อิง 2564 โดย CBG รายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส 3/2563 ที่ 970 ล้านบาท (เติบโต 32% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 17% จากไตรมาสก่อนหน้า สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สูงกว่าตลาดและคาด 8% จาก GPM ที่ดีกว่าคาด และSG&A ที่ต่ำกว่าคาด กำไรที่ขยายตัวโดดเด่น เติบโต 32% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หนุนโดย รายได้รวม 4.4 พันล้านบาท เติบโต 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากรายได้จากต่างประเทศยังขยายตัวต่อเนื่องที่ เติบโต 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และรายได้ distribution for 3rd party ทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 9 ช่วยชดเชยรายได้ domestic branded own ที่ปรับตัวลดลง 1.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดว่า คาดกำไรไตรมาส 4/2563 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 3,545 ล้านบาท เติบโต 41% เชื่อมั่ยว่าโมเมนตัมของกำไรของ CBG อยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยมี2562 -2564
รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)