สแกนหุ้นเด่นQ2กำไรโต GULF- CBG- KKP- SPALI

ทันหุ้น - โบรกคัดหุ้นผลงานไตรมาส2/64 โตได้ต่อเนื่องและทุกไตรมาส จากปัจจัยหนุนเฉพาะตัว  ชูอสังหาเด่นสุดจากยอดโอนทั้งบ้านเดี่ยว-คอนโดหนุน ชี้เป้า SPALI - LH - SIRI แถมปลอดภัยปันผลเฉลี่ย 4-5%  ขณะที่กลุ่มโรงไฟฟ้า เลือก GULF ด้านหุ้นเครื่องดื่มยกให้ CBG ส่วนแบงก์ KKP นำ

นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด คาดการณ์กลุ่มบริษัทผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 มีแนวโน้มขยายตัว อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวให้ผลการดำเนินงานทั้งปี 2564 ขยายตัวได้เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ผ่านมา (YoY) โดยหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คือ KCE ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทที่อ่อนค่าลง, ราคาแร่ทองแดงก็ปรับตัวลดลง สวนทางราคา ASP ที่ปรับขึ้นไปแล้วเป็นปัจจัยหนุนกำไรให้สามารถขยายตัวต่อเนื่องทุกไตรมาสที่เหลือ, สำหรับกลุ่มโลจิสติกส์ เลือก JWD ซึ่งได้รับอานิสงส์จากกิจกรรมการค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลบวกทิศทางผลประกอบการรวมถึงเป็นที่สนใจของนักลงทุนประเภทกองทุนต่างๆ

สำหรับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และไฟแนนซ์ ฝ่ายวิเคราะห์เลือก KKP คาดกำไรงวดไตรมาส 2/2564 ได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจ IB & Brokerage fee, ประกอบกับ Loan growth โตขึ้นเล็กน้อย รวมถึงคาดการณ์อัตราการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงกว่า 2%, และ ASK คาดกำไรงวดไตรมาส 2/2564 จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY, QoQ หนุนจาก Demand รถบรรทุกที่ยังดีอย่างต่อเนื่อง

GULF เด่นกลุ่มไฟฟ้า

ขณะที่กลุ่มโรงพยาบาลฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ BCH เป็นหุ้นที่กำไรงวดไตรมาส 2/2564 มีแนวโน้มทำ Record high ทั้ง QoQ และ YoY หนุนจากรายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับโควิด-19 มีโอกาสเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องทั้งเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2564 จากยอดผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ลดลง, และเลือก GULF เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้า เพราะแม้ต้นทุนพลังงานจะเร่งตัวสูงขึ้น แต่ GULF มีสัดส่วนโรงไฟฟ้า IPP สูงถึง 53% ในพอร์ตโรงไฟฟ้าทั้งหมด อีกทั้งยังมีโรงไฟฟ้าใหม่ที่จะทยอย COD เข้ามาในทุกไตรมาส รวมถึงแผน PDP ในเวียดนาม

และเลือก CBG เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มเครื่องดื่ม โดยคาดการณ์กำไรงวดไตรมาส 2/2564 จะได้ปัจจัยหนุนจากผลิตภัณฑ์ออกใหม่ Growth ในจีนที่โตค่อนข้างเร็ว, ประกอบกับยอดขายที่ฟื้นตัวทั้งในกัมพูชาและเมียนมา, และการที่กรมสรรพสามิตเลื่อนขยับขึ้นอัตราภาษีความหวาน "เครื่องดื่ม" ที่จะประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ออกไปอีก 1 ปี, สำหรับกลุ่มโรงแรม ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 ของ MINT จะขาดทุนน้อยกว่าโรงแรมอื่นๆ น่าจะขาดทุนเพิ่มขึ้น หนุนจาก regional demand ในยุโรปคิดเป็น 60-70% ของรายได้โรงแรม (domestic ~ 20-30%) และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ผลการดำเนินงานฟื้นตัวได้ในงวดไตรมาส 3/2564

อสังหาฟื้น-ชูSPALI

นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ว่า หุ้นที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 เร่งตัวขึ้นได้ทั้งเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2564 (QoQ) และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) คือ SPALI หนุนจากยอดขายใหม่โครงการแนวราบ และยอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ทั้งการเปิดโครงการใหม่, ยอดขายที่ยังแข็งแกร่งหนุนให้มี Backlog รอโอนกรรมสิทธิ์ในมือเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีอัตราการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง

พร้อมคาดการณ์ผลการ LH และ SIRI กำไรงวดไตรมาส 2/2564 มีแนวโน้มทรงตัวเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2564 (QoQ) เนื่องจากฐานสูง, แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากฐานต่ำ และยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่เร่งตัวขึ้น

“ช่วงเดือนเมษายนปีนี้มีวันหยุดยาวทำให้ยอดขายโครงการใหม่อ่อนลงเมื่อเทียบ YoY แต่หลายบริษัทสามารถทำยอดขายแนวราบได้อย่างแข็งแกร่ง โดยแต่ละบริษัทยังมีปัจจัยหนุนส่วนตัวอาทิ SPALI ที่โดดเด่นทั้งแนวราบและคอนโดฯ, สำหรับ LH นั้นนอกจากยอดขายแนวราบที่แข็งแกร่งและมูลค่าเงินลงทุนใน HMPRO ที่เร่งตัวขึ้น, ส่วน SIRI นั้นยอดขายโครงการยังทำได้ดีต่อเนื่อง แต่ปีนี้ปรับลดโปรโมชั่นลงน่าจะหนุนรายได้ให้เร่งตัวขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งหุ้นอสังหาฯ ก็เป็นหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงสามารถลงทุนได้อย่างปลอดภัยในช่วงที่ SET ผันผวน”