เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (14 มิ.ย. 2565)

ประธานาธิบดี “เซเลนสกี” ของยูเครน ระบุ จะควบคุมคาบสมุทรไครเมียกลับคืนมาจากรัสเซีย 

ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศเมื่อวานนี้ (13 มิถุนายน) จะปลดปล่อยคาบสมุทรไครเมีย ที่ถูกรัสเซียยึดครองไปเมื่อ 8 ปีก่อน และยึดกลับคืนมาเป็นของยูเครน

เมื่อปี 2014 กองทัพรัสเซียได้เข้ายึดครองคาบสมุทรไครเมียซึ่งตั้งอยู่ในทะเลดำ ไปจากยูเครน โดยยูเครนไม่อาจต้านทานได้ และจัดการลงประชามติในไครเมีย จากนั้นรัสเซียได้ผนวกไครเมียเป็นของตน

ก่อนหน้านี้ เซเลนสกีกล่าวถึงการยึดไครเมียกลับคืนมาอยู่เสมอ แต่ยังไม่เคยระบุว่า การยึดไครเมียกลับคืน เป็นเป้าหมายที่ชัดเจนมาก่อน

ขณะเดียวกัน ทาราส วีซอตสกี รัฐมนตรีช่วยเกษตรของยูเครน เปิดเผยว่า ยูเครนเพาะปลูกได้ลดลง 1 ใน 4 ของการเพาะปลูกปกติ หลังรัสเซียเริ่มปฏิบัติการในยูเครน

ผลิตที่ลดลงเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่ ฟาร์มหลายแห่งไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ เนื่องจากปฏิบัติการของรัสเซีย, ชาวยูเครนอพยพหนีภัยความขัดแย้งเป็นจำนวนมาก ทำให้การเพาะปลูกลดลง และการที่ยูเครนถูกปิดล้อมการส่งออกสินค้าเกษตร ทำให้การเพาะปลูกเพื่อส่งออกในยูเครนลดลงด้วย

รัฐมนตรีช่วยเกษตรยูเครน คาดด้วยว่า การเก็บเกี่ยวผลผลิตในปีนี้ จะเพียงพอสำหรับใช้ภายในประเทศเท่านั้น

ทั้งนี้ ยูเครนเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญของโลก การส่งออกสินค้าเกษตรไม่ได้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้วิกฤติอาหารโลกในขณะนี้

กองทัพรัสเซียทำลายคลังแสงขนาดใหญ่ที่เก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ของชาติตะวันตกในยูเครน

พลตรี ‘อิกอร์ โคนาเชนคอฟ’ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธร่อนหลายลูกทำลายคลังแสงขนาดใหญ่  ซึ่งเป็นสถานที่เก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ของประเทศตะวันตกในภูมิภาคเทอร์โนพิล ทางตะวันตกของยูเครนเมื่อวานนี้ (12 มิถุนายน)

โคนาเชนคอฟ กล่าวต่อไปว่า ขีปนาวุธพิสัยไกลยิงจากทะเลและมีความแม่นยำสูงอย่าง ‘คาลิบ’ ได้ทำลายคลังแสงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บจรวดต่อต้านรถถัง ระบบขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานแบบพกพา และกระสุนปืนใหญ่ที่สหรัฐฯ กับชาติพันธมิตรยุโรปส่งมาช่วยยูเครน  

นอกจากนั้น ขีปนาวุธยิงจากอากาศความแม่นยำสูงของรัสเซียยังได้ทำลายกองบัญชาการ 2 แห่งของยูเครน และยิงเครื่องบินขับไล่ SU-25 ของกองทัพอากาศยูเครน ตกใกล้โดเนตสก์และคาร์คีฟ ทางตะวันออกของยูเครน

การโจมตีดังกล่าวของรัสเซียยังทำลายยานหุ้มเกราะ 5 คัน ปืนใหญ่สนาม 6 กระบอก และปืนครกหลายกระบอก ตลอดจนคลังเชื้อเพลิง    

อย่างไรก็ตาม โคนาเชนคอฟ กล่าวทิ้งท้ายว่า  ในระหว่างปฏิบัติการทหารทั้งสิ้น รัสเซียได้ทำลายเครื่องบินยูเครน 201 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 130 ลำ โดรนไร้คนขับ 1,188 ลำ ระบบขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน 338 ฐาน รถถัง 3,514 คัน ปืนใหญ่สนาม 1,870 กระบอก  และอาวุธต่าง ๆ อีกมากมาย

ขณะที่คณะเสนาธิการทหารของยูเครน รายงานว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงปืนใหญ่หลายนัดโจมตีฐานที่มั่นต่าง ๆ ของยูเครน เพื่อที่จะปราบปรามกองทัพยูเครนในเมืองคาร์คีฟ และกองทัพรัสเซีย ได้เปิดฉากบุกเมืองเซเวโรโดเนตสก์ ศูนย์กลางการบริหารของภูมิภาคลูฮันสก์ ในพื้นที่ควบคุมของยูเครน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ

ภาพ : Reuters

ข้อมูล TNN World