รีเซต

"Nike" ลดพึ่งจีนรับมือ "ภาษีทรัมป์" ผลิตรองเท้าในตลาดสหรัฐ l การตลาดเงินล้าน

"Nike" ลดพึ่งจีนรับมือ "ภาษีทรัมป์" ผลิตรองเท้าในตลาดสหรัฐ l การตลาดเงินล้าน
TNN ช่อง16
30 มิถุนายน 2568 ( 11:37 )
9

บริษัท Nike แบรนด์กีฬาและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า เตรียมลดการพึ่งพาการผลิตจากจีนสำหรับรองเท้าที่จำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะลดสัดส่วนการนำเข้ารองเท้าจากจีนลงเหลือเพียงตัวเลขหลักเดียวในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2026

นายแมทธิว เฟรนด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เปิดเผยว่า แผนนี้ถือเป็นการตอบสนองต่อมาตรการภาษีนำเข้าฉบับใหม่ที่มีผลกระทบต่อสินค้าจากประเทศคู่ค้ารายสำคัญ โดยเฉพาะจากจีน ซึ่งขณะนี้คิดเป็นราวร้อยละ 16 ของการนำเข้ารองเท้าของ Nike เข้าสู่สหรัฐฯ 

Nike ระบุว่าจะมีการกระจายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น ๆ และปรับสัดส่วนการจัดหาสินค้าให้เหมาะสมมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนเพิ่มเติมที่เกิดจากภาษีใหม่

ในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 บริษัทสามารถทำยอดขายสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยยอดขายลดลงร้อยละ 12 อยู่ที่ 11,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่นักวิเคราะห์เคยคาดไว้ว่าจะลดลงถึงร้อยละ 14.9 ส่งผลให้ราคาหุ้น Nike พุ่งขึ้นร้อยละ 11 ในช่วงการซื้อขายหลังปิดตลาด

สำหรับไตรมาสแรกของปีงบประมาณใหม่ Nike คาดว่ารายได้จะลดลงในระดับกลางตัวเลขหลักเดียว ซึ่งยังดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ร้อยละ 7.3

แม้ว่าตลาดจีนจะยังคงเป็นความท้าทาย โดยบริษัทประเมินว่าการฟื้นตัวในประเทศดังกล่าวจะใช้เวลา แต่ในอีกด้านหนึ่ง Nike ได้เร่งลงทุนในหมวดสินค้าวิ่ง ซึ่งกลับมาเติบโตในไตรมาสล่าสุด หลังจากชะลอตัวมาหลายไตรมาส

แบรนด์ได้เน้นการพัฒนานวัตกรรมรองเท้าวิ่ง เช่น Pegasus และ Vomero ขณะเดียวกันลดการผลิตรองเท้ารุ่นคลาสสิกอย่าง Air Force 1 พร้อมปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดรับกับความสนใจในกีฬามากขึ้น

ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดในไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยล่าสุด Nike ได้จัดกิจกรรมที่มีนักวิ่งหญิงระดับโลกอย่างเฟธ คิเพียกอน ลงแข่งขันทำสถิติวิ่งระยะไมล์ให้เร็วที่สุด ณ สนามในกรุงปารีส ซึ่งแม้จะไม่สามารถทำลายสถิติเป้าหมายได้ แต่ก็สามารถสร้างสถิติใหม่แบบไม่เป็นทางการ

ในภาพรวม แม้ Nike จะเผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีและภาวะเศรษฐกิจในจีน แต่การปรับกลยุทธ์ด้านซัพพลายเชน การบริหารต้นทุน และการเน้นนวัตกรรม ยังคงช่วยรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนไว้ได้ในระยะสั้น ขณะที่มูลค่าสินค้าคงคลัง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมยังคงใกล้เคียงกับปีก่อน ที่ระดับ 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง