เปิดมาตรการธนาคารรัฐ-พาณิชย์ ช่วยพยุงลูกค้าฝ่าวิกฤต‘โควิด-19’
เปิดมาตรการธนาคารรัฐ-พาณิชย์
ช่วยพยุงลูกค้าฝ่าวิกฤต‘โควิด-19’
ซึมเซาไปตามๆ กัน ภาคเศรษฐกิจไทยเมื่อเจอกับวิกฤตโควิด-19 ที่รุนแรงและขยายวงออกไปเรื่อยๆ
หลายภาคส่วนเข้ามาช่วยเหลือ เช่นเดียวกับสถาบันการเงินทั้งธนาคารรัฐ ธนาคารพาณิชย์ ที่ต้องพยุงลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างน้อยๆ รายได้ก็หดหาย เพราะรัฐบาลประกาศ สั่งปิดห้าง ลดเวลาทำงาน และล่าสุดกับเคอร์ฟิวตั้งแต่ 4 ทุ่ม-ตี 4
การนี้ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าฯ การแบงก์ชาติ เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการคุ้มครองเงินฝากที่จะปรับลดลงเหลือ 1 ล้านบาท ในช่วงเดือนส.ค. 2563 ออกไป 1 ปี เป็นส.ค. 2564 เพื่อลดความกังวลของประชาชน
พร้อมทั้งเห็นชอบให้ลดการนำส่งเงินสมทบจากเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เพื่อใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ เหลือ 0.23% จาก 0.46%
“หวังว่าการปรับลดการนำส่งเงินสมทบนี้ สถาบันการเงินจะนำส่วนต่างที่ลดลงไปใช้ในการออกมาตรการเพื่อลดภาระภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชน”
นายวิรไทกล่าว
ขณะเดียวกันสถาบันการเงินทยอยประกาศมาตรการ ช่วยเหลือ เริ่มที่ธนาคารของรัฐ ป๋าสุดยกให้ ‘ธนาคารออมสิน’ เพราะเป็นเจ้าแรกที่ออกมาประกาศงดจ่ายเงินต้น-ดอกเบี้ย อัตโนมัติ 3 เดือน ให้กับลูกค้าเงินกู้ทุกรายที่มีสถานะ ชำระปกติจนถึงที่มีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน ณ วันที่ 31 มี.ค. 2563
ได้สิทธิ์ทั้งลูกค้าสินเชื่อบุคคล สินเชื่อเคหะที่มีเงินต้น คงเหลือไม่เกิน 3 ล้านบาท และสินเชื่อ SMEs ที่มีเงินต้น คงเหลือไม่เกิน 20 ล้านบาท
มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2563
ลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำในปี 2563-2564 จากเดิม 10% ของยอดเงินที่เรียกเก็บ เหลือ 5% ของยอดเงินที่เรียกเก็บ
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พักชำระเงินต้นระยะเวลา 3 เดือน จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท (ไม่จำกรอบวงเงินสินเชื่อ) มีสถานะ บัญชีปกติ ไม่อยู่ในสถานะกฎหมาย สามารถลงทะเบียนได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2563
พักชำระเงินต้นระยะเวลา 1 ปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย รายเดือน (ไม่จำกัดกรอบวงเงิน สินเชื่อ) เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่พักชำระเงินต้นแล้ว สามารถแจ้งความประสงค์ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระเพิ่มได้นานสูงสุดอีก 10 ปี ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 เม.ย.นี้
พักชำระเงินต้นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน กรอบวงเงินสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) พักชำระเงินหนี้เงินต้นให้แก่ลูกค้าเงินกู้ทุกรายที่มีสถานะชำระปกติจนถึงที่มีหนี้ ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน ณ วันที่ 1 มี.ค. เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นไป คงเหลือชำระเฉพาะดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนเท่านั้น ได้รับสิทธิอัตโนมัติทันที
ลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% เป็นเวลา 1 ปี สำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม ธุรกิจห้องพัก ธุรกิจสปา ธุรกิจร้านอาหาร/ภัตตาคาร ธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ และบริการขนส่งนักท่องเที่ยว
ธนาคารกรุงไทย พักชำระหนี้ให้ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจที่มีสถานะชำระปกติ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 3 เดือน ทั้งลูกค้าสินเชื่อบุคคล ได้แก่ สินเชื่อ Smart Money และสินเชื่ออเนกประสงค์ 5 Plus
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมทั้งสินเชื่อธุรกิจที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท ยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้-30 มิ.ย.
พักชำระเงินต้น 12 เดือนให้กับลูกค้ารายย่อย ขยายระยะเวลาชำระหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) และสินเชื่อ Trade Finance ออกไปอีก 6 เดือน สำหรับลูกค้าธุรกิจที่มีรายได้ลดลง
สินเชื่อกรุงไทยต้านภัยโควิด-19 ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 2% ต่อปี คงที่ 2 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม บสย. ค้ำประกัน 4 ปี ทำธุรกรรมโอน รับ จ่าย ไม่คิดค่าธรรมเนียมนาน 1 ปี
ส่วนธนาคารเอกชน ธนาคารกรุงเทพ ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิตอยู่ที่ 5% (จากเดิม 10%) มีผลตั้งแต่รอบบิลของวันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป ต่อเนื่อง เป็นเวลา 2 ปี
ลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ที่มีอาชีพหรือทำงาน ในธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว สายการบิน และอาชีพในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง หรือลูกค้าที่มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท/เดือน สามารถขอรับความช่วยเหลือปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ เป็นคงเหลือที่ 12%
สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ประเภทเงินกู้ (Installment Loan) สามารถลงทะเบียนขอรับการพักชำระเงินต้น และดอกเบี้ย ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน แจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลมายังช่องทางของธนาคาร
สินเชื่อที่อยู่อาศัย วงเงินขณะอนุมัติไม่เกิน 3 ล้านบาท สามารถลงทะเบียนขอรับการพักชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน
สินเชื่อธุรกิจ SME วงเงินขณะอนุมัติไม่เกิน 20 ล้านบาท สามารถขอพักชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ธนาคารกสิกรไทย ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิตกสิกรไทย เหลือ 5% จากเดิม 10% ในช่วงปี 2563-2564 เหลือ 8% ในปี 2565 และปรับเป็น 10% ตามเดิมอีกครั้งในปี 2566 ให้สิทธิ์อัตโนมัติ
พักชำระเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ย สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตกสิกรไทย และบัตรเงินด่วน XPress Cash จนถึงเดือนธ.ค. 2563
สินเชื่อบ้านกสิกรไทย พักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน หรือลดยอดผ่อนต่องวด 50% สูงสุด 12 เดือน
สินเชื่อธุรกิจ K SME พักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ย ระยะเวลา 1 ปี และขอวงเงินสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
สินเชื่อรถยนต์ K Leasing พักชำระเงินต้น และดอกเบี้ยได้ 3 รอบบัญชี
ด้านธนาคารไทยพาณิชย์ ชำระขั้นต่ำบัตรเครดิตเหลือ 5%
สินเชื่อรถยนต์ พักชำระค่างวด 6 เดือน
บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ทุกประเภท และสินเชื่อหมุนเวียน Speedy Cash พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อบุคคล Speedy Loan พักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อบ้าน พักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย ยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาท พักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน และขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ย 2% นาน 2 ปี ระยะเวลาการกู้สูงสุด 10 ปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสที่ไม่เป็นสินเชื่อค้างชำระเกิน 90 วัน ไม่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือไม่เป็นสินเชื่อที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2563 พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน พักชำระหนี้เงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุด ไม่เกิน 6 เดือน ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ ธนาคาร จะพิจารณามาตรการช่วยเหลือตามผลกระทบที่ลูกค้าได้รับแล้วแต่กรณี
สินเชื่อยานยนต์ กรุงศรี ออโต้ พักชำระค่างวดสูงสุดระยะเวลา 5 เดือน สำหรับรถจักรยานยนต์ และสูงสุดระยะเวลา 6 เดือน สำหรับรถยนต์ และปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวดลง
สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำต่อเดือน สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลจากเดิม 5% เหลือ 3% (เฉพาะสินเชื่อแบบชำระขั้นต่ำ) ตามรอบบัญชีตั้งแต่ 18 มี.ค. 2563 ถึง 31 ธ.ค. 2564 สำหรับลูกค้าทุกราย สำหรับผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตจากเดิม 10% เหลือ 5% ตามรอบบัญชีตั้งแต่ 1 เม.ย. 2563 ถึง 31 ธ.ค. 2564 สำหรับลูกค้าทุกราย
ฟากธนาคารทีเอ็มบีและธนชาต ลดชำระขั้นต่ำบัตรเครดิต เหลือ 5% ในช่วงปี 2563-2564 เหลือ 8% ในปี 2565 และปรับเป็น 10% ตามเดิมอีกครั้งในปี 2566 มีผลอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องติดต่อมายังธนาคารแต่อย่างใด และบัตรกดเงินสด เหลือ 3%
สินเชื่อรถยนต์ ธนชาต Drive พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 เดือน
สินเชื่อบ้านและสินเชื่อบุคคล พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน
สินเชื่อเอสเอ็มอี เงินกู้ระยะยาวพักเงินต้น 6 เดือน ลดอัตราดอกเบี้ย O/D 1.5% ระยะเวลา 3 เดือน และพักชำระค่าธรรมเนียมประกัน บสย. 12 เดือน
ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ เงินกู้ระยะยาวพักชำระเงินต้นและขยายเวลาผ่อนชำระสูงสุด 6 เดือน เงินกู้ระยะสั้น ขยายเวลาชำระเงินต้น 3 เดือน และเพิ่มวงเงินสินเชื่อ
ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของมาตรการสถาบันการเงิน ที่อย่างน้อยช่วยลูกค้าหายใจได้คล่องขึ้น และร่วมจับมือเพื่อฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน