รีเซต

LEO โลจิสติกส์เชื่อมโลก ขานรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

LEO โลจิสติกส์เชื่อมโลก ขานรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
ทันหุ้น
5 พฤศจิกายน 2563 ( 07:45 )
97
LEO โลจิสติกส์เชื่อมโลก ขานรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ทันหุ้น - สู้โควิด – LEO โลจิสติกส์ยุค New Normal พร้อมเทรดวันแรก คาดกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ชูพื้นฐานแข็งแกร่ง โกยมาร์จิ้นในระดับสูงกว่า 28%  เล็งนำเงินระดมทุนขยายงานให้บริการโลจิสติกส์ ครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ ฟากโบรกเคาะช่วงราคา 4.30 – 4.50 บาท

 

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ รองประธานคณะกรรมการ บริษัท ประธานคณะผู้บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า ยุค New Normal หรือช่วงโควิด-19 ผู้บริโภคที่ไม่เคยซื้อออนไลน์เปลี่ยนพฤติกรรมมาซื้อออนไลน์มากขึ้น ฉะนั้นมองว่า New Normal หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ชส่วนหนึ่งที่บริษัททำอยู่จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น

 

ขณะที่แนวโน้มการขนส่งสินค้า ก่อนหน้านี้ลูกค้าต้องขนส่งแบบเหมาตู้จำนวนมาก ตอนนี้อาจต้องขนส่งจำนวนน้อยลง ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของ LEO ที่เปิดบริษัทมา 30 ปี และให้บริการขนส่งแบบ LCL หรือไม่เต็มตู้

 

ขนส่งนิวนอมอล

 

ฉะนั้น New Normal จะส่งผลบวกให้กับธุรกิจของ LEO ส่วนแนวโน้มธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศมีอัตราขนส่งที่แพง และจะอยู่ลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะสายการบินจากดูไบขนส่งนักท่องเที่ยวไปทั่วโลก จำนวนเที่ยวบิน 5-7 วันต่อเที่ยว คาดว่า 2-3 ข้างหน้านักท่องเที่ยวจะยังไม่กลับมา แต่อาจจะเห็นใน 2-3 ปีถัดไป ทำให้เที่ยวบินขนส่งนักท่องเที่ยวจะยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ และทำให้ค่าระวางสูง ดังนั้นการขนส่งทางอากาศแบบเหมาลำและค่าขนส่งให้กับลูกค้าจะอยู่ในทิศทางเชิงบวกได้อย่างต่อเนื่อง

 

ขณะที่การลงทุน Self Storage เป็นธุรกิจห้องเก็บของขนาดเล็ก บริษัทมีห้องพื้นที่เล็ก 1.5-20 ตารางเมตร ซึ่งบริษัทเป็นผู้ออกแบบระบบห้อง และลูกค้าสามารถเข้าล็อกระบบห้องเอง โดยลูกค้าคือกลุ่ม MSE , อีคอมเมิร์ช , กลุ่มลูกค้าที่ต้องซ่อมบ้าน และเอาสินค้าไปฝากเก็บ เป็นต้น

 

ทั้งนี้บริษัทเห็นสัญญาณการเติบโตของ Self Storage โดยเริ่มเห็นในกลุ่ม SME ก่อน ปัจจุบันในพื้นที่เขตพระราม 3 มีลูกค้าหลายราย บางโอกาสลูกค้ามาทำการค้าขายในพื้นที่ และแพ็กสินค้าส่งทันที โดยเฉพาะลูกค้าที่ขายของออนไลน์ ส่วนในอนาคตบริษัทจะขยายพื้นที่ให้บริการตรงนี้ อีกทั้งพื้นที่ 1.2 พันตารางเมตร บริษัทใช้บุคลากรน้อยมาก หากในอนาคตขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นไปถึง 2-3 พันตารางเมตร บริษัทยังใช้บุคลากรจำนวนเท่าเดิม เพราะมีไอทีเข้ามาช่วยเสริม และนี่คือปัจจัยที่ส่งผลให้อัตรากำไรของ Self Storage มากกว่า 40% และถือเป็นธุรกิจโลกยุค New Normal

 

มั่นใจพื้นฐานแกร่ง

 

สำหรับการการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและจากประสบการณ์การทำงานในธุรกิจนี้ ที่มีมาอย่างยาวนาน

 

หลังจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ บริษัทจะนำเม็ดเงินที่ได้มาใช้ขยายงานให้บริการโลจิสติกส์ ครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ อย่างเช่น โครงการ Leo Self Storage & E-Fulfillment จำนวน 2โครงการ การพัฒนาระบบขนส่งผ่านแดนไปยังประเทศเมียนมาร์ การขยายพื้นที่บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และเป็นเงินทุนในการเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและกลุ่มอาเซียน ที่เหลือจากการระดมทุนจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ ต่อไป

 

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยครึ่งปีแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 28 ล้านบาท สำหรับรายได้รวมบริษัทในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,047 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 47 ล้านบาท ขณะที่ Gross Profit Margin อยู่ที่ 28.89%

 

กระแสตอบรับดี

 

ด้านนายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน รวมทั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่า หุ้น LEO จะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เป็นวันแรก ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 นี้ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และจากประสบการณ์การให้บริการในด้านโลจิสติกส์ของบริษัทฯ ที่มีมากกว่า 29 ปี โดยสะท้อนให้เห็นจากราคาหุ้นที่มีความเหมาะสม ที่ 3.42 บาท

 

อนึ่ง บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งให้ราคาเป้าหมายในปี 2564 ของ LEO อยู่ในช่วงระหว่างราคา 4.30 – 4.50 บาท ต่อหุ้น สะท้อนให้เห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจและโอกาสในการลงทุน

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง