โปร่งใสช้า ดีกว่าเร็วแบบซ่อนใต้โต๊ะ ชีวิต “ครูสุรเบล” กับบทเรียนที่ไม่มีในตำรา

“สุรศักดิ์ คำท้าว” หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “ครูสุรเบล” คือคุณครูวิทยาศาสตร์ที่กลายเป็นขวัญใจนักเรียนยุคโซเชียล เจ้าของช่อง TikTok “SuraBale - สุรเบล” ที่มียอดเข้าชมรวมกว่า 30 ล้านครั้ง จากการทำคอนเทนต์สอนวิทยาศาสตร์ให้สนุก เข้าใจง่าย และตั้งคำถามจากชีวิตจริงแทนการท่องจำแบบเดิม
ในโลกที่อาชีพครูบางส่วนกลายเป็นสนามแข่งขันเพื่อหาผลประโยชน์จากการติว การปล่อยข้อสอบ หรือแม้กระทั่งการใช้เวลาสอนอย่างไม่เต็มที่ ครูสุรเบลกลับเลือกที่จะ “สอนให้เต็มร้อยในห้องเรียน” โดยไม่สอนพิเศษ ไม่เรียกเก็บเงินเพิ่ม และไม่หาผลประโยชน์จากเวลาเด็ก
ห้องเรียนที่เริ่มจากคำถาม ไม่ใช่สรุปท่องจำ
ครูสุรเบลเล่าว่า จุดเริ่มต้นของวิธีการสอนของเขา เกิดจากปมในวัยเด็กที่กลัวการเรียนวิทยาศาสตร์ เพราะมันไม่น่าสนใจ และรู้สึกว่า “ครูถามมาแต่ไม่กล้าตอบ” เพราะกลัวผิด
วันนี้เขาจึงพยายามสร้างห้องเรียนที่ตรงข้ามกับสิ่งนั้นโดยสิ้นเชิง “ผมเตรียมการสอนจากมุมของเด็กก่อนเสมอ มองว่าเขาจะสงสัยอะไร แล้วค่อยป้อนความรู้เป็นคำตอบให้” เขาใช้เรื่องราวในชีวิตประจำวันเป็นจุดตั้งต้น ตั้งคำถามให้เด็กคิดก่อนสอนเสมอ
ปัญหาที่ไม่มีในตำรา – ‘การทุจริตเวลาเด็ก’
“การทุจริตเวลาเด็ก” คือสิ่งที่ครูสุรเบลพูดถึงอย่างตรงไปตรงมา เขาระบุว่า ปัญหาใหญ่ของระบบการศึกษาไทยคือการที่ครูบางคนไม่ได้สอนเต็มเม็ดเต็มหน่วยในห้องเรียน แล้วไปหารายได้เพิ่มเติมจากการสอนพิเศษ หรือแม้แต่ปล่อยข้อสอบให้เฉพาะกลุ่ม
“บางคนเอาเนื้อหาไปเก็บไว้ข้างนอก ทั้งที่หน้าที่หลักของเราคือสอนให้หมดในห้องเรียน” เขากล่าว พร้อมย้ำว่าตนเองไม่รับสอนพิเศษ ไม่รับเงินบริจาค และไม่หวังผลกำไรจากการเป็นคนดังออนไลน์
ใช้ชื่อเสียงตอบแทนโรงเรียน – ไม่ใช่เอาเปรียบระบบ
หลังจาก TikTok ของเขามียอดเข้าชมสูงถึง 30 ล้านวิว ครูสุรเบลเกิดไอเดียว่าจะใช้ความนิยมที่มี “ขอรับบริจาคเพื่อซื้อรถรับส่งนักเรียนคันใหม่” เพราะคันเดิมใช้การไม่ได้แล้ว
เขาเดินเรื่องอย่างโปร่งใสผ่านผู้บริหารและคณะกรรมการสถานศึกษา ยืนยันชัดว่าเงินทุกบาทจะเข้าโรงเรียนโดยตรง ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเขา และระบุเป้าหมายว่าขอระดมทุน 15 วัน “เอาเท่าที่ได้”
ปรากฏว่าเพียง 8-9 วัน ได้ยอดเงินบริจาคมากกว่า 2 ล้านบาท แต่เมื่อต้องดำเนินการจริง ระบบราชการไม่เอื้อ เพราะโรงเรียนไม่สามารถถือเงินเกิน 30,000 บาท ต้องส่งต่อเงินทั้งหมดให้สำนักงานเขตดำเนินการแทน
โปร่งใสช้า แต่มั่นคงกว่า ‘ใต้โต๊ะเร็ว’
“ผมรู้ว่ามันช้า ผมเครียดมาก แต่ผมก็ยอมรอ เพราะอยากให้ทุกอย่างอยู่บนโต๊ะ ไม่มีอะไรหลบซ่อน” เขากล่าว
การยืนหยัดทำงานภายใต้ระบบที่ซับซ้อนและล่าช้า อาจไม่ใช่ทางเลือกที่หลายคนอยากเดิน แต่ครูสุรเบลกลับเลือกทางนี้ ด้วยเหตุผลเดียวว่า “เด็กควรได้ประโยชน์สูงสุด และไม่ควรต้องเสียศรัทธาในระบบเพราะผู้ใหญ่บางคนลัดขั้นตอน”
ตลอดกระบวนการจัดซื้อ เขาเลือกเปิดเผยข้อมูลทุกขั้นตอน บอกชัดว่าโรงเรียนไม่สามารถถือเงินเกินที่กฎหมายกำหนด และยืนยันว่า เงินทุกบาทที่ได้รับจะต้องผ่านระบบตรวจสอบของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ไม่ใช่เก็บไว้ที่ตัวเอง หรือผู้บริหาร
“ผมไม่อยากให้ใครคิดว่าเราแอบแสวงหาผลประโยชน์จากการเป็นครูดัง” เขากล่าว พร้อมเปิดทางให้ผู้สนับสนุนซื้อสินค้าของเขาแทนการบริจาค เพราะเชื่อว่า “การเทรดอย่างโปร่งใส ดีกว่าการรับเงินเปล่าที่อาจถูกมองว่าแฝงนัย”
แม้กระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลากว่า 3 เดือนกว่ารถนักเรียนจะจัดซื้อสำเร็จ เขายืนยันว่า “ช้า แต่มั่นคง ดีกว่าเร็วแต่หลบซ่อน”
ครูไม่ได้ดี 100% แต่สอนเต็ม 100%
ครูสุรเบลยอมรับว่า เขาไม่ใช่ครูที่ดี 100% และไม่อยากสร้างภาพให้ดูดีเกินจริง แต่สิ่งหนึ่งที่เขายึดมั่นมาตลอดคือ “ความรับผิดชอบต่อ 1 ชั่วโมงของตัวเองในห้องเรียน”
เขาเชื่อว่า ถ้าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องตั้งเป้าใหญ่ “เด็กอยากรู้แค่ไหน ครูต้องพร้อมไปด้วยกัน”
และในวันที่โลกการศึกษากำลังถูกตั้งคำถาม ความซื่อสัตย์แบบเรียบง่ายของครูสุรเบล คือคำตอบหนึ่งที่สังคมควรฟัง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
