FDA สหรัฐฯ อนุมัติใช้วัคซีนต้านโควิด-19 "สไปค์แวกซ์" ของโมเดอร์นาอย่างเต็มรูปแบบ
วันนี้ (1 ก.พ.65) สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ประกาศเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) ตามเวลาในสหรัฐฯ ว่า ได้อนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นา อย่างเต็มรูปแบบ คือใช้ได้ทั่วไป สำหรับคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นการยกระดับขึ้นจากที่เคยอนุมัติให้ใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ วัคซีนต้านโควิดของโมเดอร์นา มีชื่อเป็นทางการว่า “Spikevax” ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2020 เป็นต้นมา
สำหรับการอนุมัติครั้งนี้ เป็นการอนุมัติสำหรับวัคซีน 2 เข็มของโมเดอร์นา แต่ไม่รวมถึงเข็มกระตุ้นเข็ม 3 โดยเข็ม 3 ยังคงได้รับอนุมัติเฉพาะการใช้ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ
ด้าน แจเน็ต วู้ดค็อค ผู้อำนวยการ FDA กล่าวว่า วัคซีน Spikevax ของโมเดอร์นา นับเป็นวัคซีนต้านโควิดตัวที่ 2 ที่ได้รับอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบให้ใช้ได้กับคนทั่วไปเป็นตัวที่ 2 ของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ FDA ได้อนุมัติวัคซีนต้านโควิดของไฟเซอร์ อย่างเต็มรูปแบบใช้ได้ทั่วไปเป็นตัวแรก สำหรับคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา
FDA ระบุในการอนุมัติครั้งนี้ด้วยว่า ผลการทดลองวัคซีน Spikevax ของโมเดอร์นา กับคน 14,287 คนที่ได้รับวัคซีนจริง เปรียบเทียบกับคนอีกกลุ่ม 14,614 คนที่ได้รับวัคซีนหลอก ได้ยืนยันประสิทธิภาพของวัคซีนตัวนี้ แต่มีความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ได้รับวัคซีนที่เป็นชายอายุระหว่าง 18-24 ปี เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบได้ โดยมักพบหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
ส่วนผลข้างเคียงที่พบมากที่สุดในการทดลองวัคซีนคือ การปวดบริเวณที่ฉีด อาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อหรือข้อ รู้สึกหนาว คลื่นไส้หรืออาเจียน และต่อมน้ำเหลืองโต
แต่ FDA พิจารณาแล้วว่า ประโยชน์ของวัคซีนโมเดอร์นา มีมากกว่าความเสี่ยงการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบในคนอายุ 18 ปีขึ้นไปหรือมากกว่า.
ภาพจาก Reuters