EPไฟเพิ่ม160เมก บันทึกรายได้Q1 ผุดหลังคาชาร์จอีวี
ทันหุ้น – EP จ่อรับรู้รายได้ขายไฟ 160 เมกะวัตต์ ในไตรมาสแรกปี 2565 พร้อมเจรจาพันธมิตรลุย LNG to Power ในเวียดนาม 1,500 เมกะวัตต์ หวังชัดเจนปีนี้ แถมสนใจเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ อีกด้วย เล็งศึกษาธุรกิจชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) บนหลังคา ร่วมกับการใช้งานแบตเตอรี สำหรับลูกค้านิคมอุตสาหกรรม หนุนโอกาสสร้างรายได้ประจำเพิ่ม
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2565 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง บริษัทเตรียมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)โรงไฟฟ้าพลังลม ในเวียดนาม กำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 1/2565 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ประจำเข้ามา นอกจากนี้ยังศึกษาการลงทุนโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่อง ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ (LNG to Power) ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังผลิต 1,500 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในเวียดนาม และพันธมิตรที่จะร่วมการก่อสร้าง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 2565 นี้
*ประมูลโรงไฟฟ้าลม
ส่วนโครงการในประเทศบริษัทสนใจเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ แต่ทั้งนี้ต้องรอความชัดเจนจากทางภาครัฐก่อน หากบริษัทได้โครงการเพิ่มจะทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้น เพราะก่อนหน้านี้บริษัทมีการขายโครงการให้กับ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด (UVBGP) ไป 2 โครงการ ได้แก่ บริษัท PPTC 1 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง ไฟฟ้า 120 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 30 ตันต่อชั่วโมง) และบริษัท SSUT 2 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า 240 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 60 ตันต่อชั่วโมง) โดยจะบันทึกกำไรพิเศษกว่า 2 พันล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/2564
“ปี 2565 บริษัทจะเติบโตต่อเนื่อง เพราะเตรียม COD โรงไฟฟ้าเข้าระบบเพิ่มเป็นรายได้ประจำ และยังมีโครงการใหม่ๆ ที่บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนโครงการใหม่ต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่จะเน้นโครงการต่างประเทศมากกว่า อย่างโครงการที่บริษัทรอคือ LNG to Powerที่ปัจจุบันก็มีการเจรจาในภาพรวมอยู่ เจรจากับพันธมิตรในหลายๆ ราย เพื่อเดินหน้าโครกงาร ส่วนเงินลงทุนก็ขึ้นอยู่กับสัดส่วนการลงทุนแต่บริษัทจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโครงการ” นายยุทธ กล่าว
*ศึกษาธุรกิจชาร์จอีวี
อย่างไรก็ดีสำหรับปี 2565 ความต้องการใช้พลังงานยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลักดันโครรงการยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐที่จะทำให้ช่วยดึงซัพพลายไฟฟ้าในระบบไปใช้ ส่งผลให้สำรองไฟฟ้าลดลง บริษัทมองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่การผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าน่าจะมีการเร่งดำเนินการในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานก่อนเพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพและคลอบคลุม
ในส่วนของบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทพลังงาน อยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจชาจน์รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) บนหลังคาจอดรถ ร่วมกับการใช้งานแบตเตอรี สำหรับลูกค้านิคมอุตสาหกรรม เชื่อว่จะมีความต้องการใช้งานจำนวนมาก เพราะประชาชนส่วนใหญ่ที่เดินทางมาทำงานก็สามารถที่ชาร์จรถไฟฟ้าในสถานที่จอดรถได้เลย ส่วนแบตเตอรีก็อยู่พิจารณาพันธมิตร แต่อาจจะเป็นพันธมิตรจากต่างประเทศที่ต้องการเข้ามาลงทุนแบตเตอรีในประเทศไทย