GULF ปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล ที่เยอรมนี, บ.ย่อยถือหุ้น 50% แล้ว
ทันหุ้น-สู้โควิด : บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอ์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ในความคืบหน้าการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 เมกะวัตต์(MW) ในประเทศเยอรมนี ว่าเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2563 บริษัทได้ดำเนินการตามเงื่อนไขต่างๆ ในสัญญาซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้นแล้ว เช่นการดำเนินการขออนุญาตต่างๆ จากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของประเทศเยอรมนี และเจ้าหนี้หรือผู้ถือหุ้นกู้ของโครงการในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหม่ ส่งผลให้บริษัทได้ดำเนินการโอนตามสัญญาซื้อขายหุ้นข้างต้นเสร็จสมบูรณ์ และได้เป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อม ผ่าน Gulf International Holding Pte. Ltd. (GIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ GIH ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่ม Global Infrastructure Partners (GIP) เพื่อลงทุนในโครงการ Borkum Riffgrund 2 Offshore Wind Farm GmbH & Co. oHG (โครงการ BKR2) ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 MW ในสัดส่วน 50% โดยมีกลุ่ม Ørsted A/S (Ørsted) ถือหุ้นในสัดส่วนที่เหลืออีก 50%
โครงการ BKR2 ตั้งอยู่ในทะเลเหนือ (North Sea) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนีโดยโครงการได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2562และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement: PPA)และสัญญาบำรุงรักษา (Operation & Maintenance Agreement: O&M Agreement) กับกลุ่มบริษัท Ørsted เป็นระยะเวลา 20 ปี จากวันที่เปิดดำเนินการ โครงการได้รับค่าไฟฟ้าแบบ feed-in tariff (FiT) ที่รับประกันโดยรัฐบาลเยอรมนีเป็นระยะเวลา 9.5 ปีหลังจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์และจะได้รับค่าไฟฟ้าตาม merchant price โดยมีการรับประกันราคาขั้นต่ำสำหรับปีที่ 9.5 ถึงปีที่ 20