รีเซต

สตาร์ตอัปในสหรัฐอเมริกาเตรียมลดการใช้น้ำมันด้วย E-fuel 1,000 ล้านลิตร

สตาร์ตอัปในสหรัฐอเมริกาเตรียมลดการใช้น้ำมันด้วย E-fuel 1,000 ล้านลิตร
TNN ช่อง16
12 พฤษภาคม 2567 ( 11:17 )
77

อย่างที่เรารู้กัน การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันมนุษย์ก็ยังไม่สามารถตัดขาดการใช้งานน้ำมันได้ แม้ว่าจะมีความพยายามผลักดันการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแทนที่รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงสันดาปได้ทั้งหมด แต่ในขณะเดียวกัน ภาวะโลกเดือดหรือโลกร้อนก็ยังทวีความรุนแรงมากขึ้นไปทุกที ดังนั้น ทเวลฟ์ (Twelve) บริษัทสตาร์ตอัปด้านพลังงานในสหรัฐอเมริกา จึงพัฒนาสิ่งที่เรียกว่าอีฟีล (E-fuel) มาเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกระหว่างที่กำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน


E-fuel คืออะไร

E-fuel หรืออิเล็กโทรฟีล (Electrofuel) เป็นน้ำมันที่ไม่ได้ผลิตจากน้ำมันดิบ แต่สร้างมาจากการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์มาเข้ากระบวนการเคมีรวมกับน้ำ ด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งที่ยั่งยืน จนกลายร่างเป็นเชื้อเพลิงเหลว โดยการพัฒนา E-fuel มีหลายบริษัทในโลกที่กำลังพัฒนา เพราะเชื่อว่าจะมาช่วยแก้ปัญหาการใช้น้ำมันที่มีวันหมดไป รวมถึงอาจพัฒนาจนสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่สิ่งแวดล้อมได้ด้วย


โดยหนึ่งในบริษัทที่จริงจังกับเรื่องนี้คือทเวลฟ์ (Twelve) สตาร์ตอัปสัญชาติอเมริกันที่เริ่มพัฒนา E-fuel มาตั้งแต่ปี 2015 โดยมุ่งเน้นการ E-fuel สำหรับเครื่องบินพาณิชย์ก่อน ภายใต้ชื่อทางการค้าว่า อีเจ็ต (E-jet) โดยเมื่อไม่นานมากนี้ทาง Twelve ได้บรรลุข้อตกลงในการเสนอขาย E-jet กับ ไอเอจี (IAG: International Airline Group) บริษัทเครือสายการบินรายใหญ่ของโลกที่รวมถึงสายการบินบริติช แอร์เวย์ส (British Airways) ในปริมาณปีละ 1 ล้านตัน หรือคิดเป็น 1,000 ล้านลิตร เพื่อเอาไปใช้กับเครื่องบินในเครือของ IAG


E-fuel กับการลดการปล่อยคาร์บอน

เป้าหมายของ IAG คือการลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้ร้อยละ 10 ในปี 2030 นี้ โดยการใช้เชื้อเพลิงที่ยั่งยืน หรือเอสเอเอฟ (SAF: Sustainable Aviation Fuel) ทั้งในรูปแบบของ E-fuel และยังรวมไปถึง SAF แบบอื่น ๆ โดยสัญญาระหว่าง IAG กับ Twelve คาดว่าจะลดคาร์บอนที่เครือ IAG ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศได้ปีละ 2 ล้านตัน หรือเหมือนการนำรถยนต์ออกจากถนนไป 3 คัน จากทุก ๆ 10,000 คัน ทั่วโลก (ร้อยละ 0.0003)


อย่างไรก็ตาม E-fuel ในปัจจุบันยังไม่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากพอ เนื่องจากกระบวนการผลิต E-fuel ก็ยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่ใกล้เคียงกับตอนดักจับเข้ามา แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า E-fuel จะเข้ามาช่วยลดการใช้น้ำมันและลดการขุดน้ำมันดิบเอาขึ้นมาใช้ได้ และหากมีการใช้ E-fuel มากขึ้น ก็เชื่อได้ว่าจะมีการวิจัยเพื่อเพิ่มคุณภาพในการผลิตจนสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอนาคตได้เช่นกัน


ข้อมูลจาก ECO NEWS, Wikipedia

ภาพจาก Twelve

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง