ชายฝั่งสหรัฐฯ อาจพังยับ สูญ 32,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากภาวะโลกร้อน

22 สิงหาคม 2568 ( 12:00 )
8
แม้เหตุการณ์พายุเฮอริเคนแคทรีนาเมื่อปี 2005 จะผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ร่องรอยความสูญเสียยังคงอยู่ และตอนนี้นักวิจัยเตือนว่าความเจ็บปวดครั้งใหม่กำลังใกล้เข้ามาอีกครั้ง เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้ชายฝั่งกัลฟ์โคสต์ต้องเผชิญความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาลในอนาคต
รายงานวิเคราะห์โดย Urban Institute โดยใช้ข้อมูลจาก FEMA ระบุว่า ภายในปี 2050 ความเสียหายจากสภาพอากาศสุดขั้วในรัฐเท็กซัส ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี แอละแบมา และฟลอริดา จะมีมูลค่ารวมกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี (คิดตามค่าเงินปี 2024) ซึ่งมากกว่าสองเท่าของการประเมินหากไม่นับผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อยู่เพียง 15,000 ล้านดอลลาร์
การวิเคราะห์ครอบคลุมความเสี่ยงจากน้ำท่วมชายฝั่ง คลื่นความร้อน ไฟป่า เฮอริเคน และภัยแล้ง โดยพบว่ามณฑลใหญ่และหนาแน่นอย่าง Harris County ในรัฐเท็กซัส อาจเผชิญความเสียหายกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และ Broward County ในฟลอริดา กว่า 2 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าตัวเลขเหล่านี้ยังสะท้อนไม่หมด เพราะต้นทุนที่แท้จริงจากภัยพิบัติยังรวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพ จิตใจ และเศรษฐกิจชุมชนในวงกว้าง ซึ่งประเมินเป็นเงินไม่ได้ทั้งหมด
รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่า ต้นทุนจากสภาพอากาศสุดขั้วจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หากยังไม่เร่งลงทุนในมาตรการปรับตัวและลดคาร์บอน ชายฝั่งกัลฟ์โคสต์ที่เคยผ่านบทเรียนเจ็บปวดจากเฮอริเคนแคทรีนา อาจต้องเผชิญความเสียหายที่รุนแรงและต่อเนื่องยิ่งกว่าเดิมในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
