ผบช.ตม. เดือด ขีดเส้นตาย 6 โมงเย็น ใครไม่มารายงานตัวเปิดชื่อประจานและดำเนินคดี
พล.ต.ท. สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.ตม. เดือด ขีดเส้นตาย 6 โมงเย็นให้คนทั้ง 158 คน ที่กลับมาจากต่างประเทศ ไม่ยอมไปค่ายกักตัว เบื้องต้นมารายงานตัวแล้วกว่า 40 คน หากใครไม่มารายงานตัว จะทำการเปิดชื่อประจานและตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 4 เมษายน 2563 ที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปาการ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง พล.ต.ท. สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.ตม. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าว รายงานสถานการณ์การคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด Covid-19 ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวก พร้อมอธิบายขั้นตอนการคัดกรองคนก่อนเข้าประเทศ
ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายมาอย่างต่อเนื่อง กระบวนคัดกรองปิดกั้น คนไทยต้องผ่านกระบวนการคัดกรองโรคและมีใบรับรองแพทย์ก่อนขึ้น นำมาแสดงต่อสถานทูตในประเทศนั้นก่อน สถานทูตออกใบรับรองให้ สำหรับคนไทย ต่างชาติ ต้องมีใบรับรองแพทย์ มีการคัดกรองตัวเอง แล้วมีกระบวนการคัดกรองก่อนขึ้นเครื่อง เมื่อผ่านมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ต้องผ่านเครื่องเทอร์โมสแกน ถ้าอุณหภูมิเกินก็จะแยกตัว ถ้าไม่มีไข้จะมีการลงข้อมูลในแอป ที่อยู่ที่พักอาศัย ข้อมูลประวัติ เพื่อสะดวกในการติดตามตัว เมื่อผ่านกระบวนการทุกอย่าง ด่านควบคุมโรคจะประทับตรา ในเล่มพาสปอร์ต แล้วก็จะนำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ ตม. ถ้าไม่มี ก็จะต้องไปผ่านการคัดกรองใหม่ ซึ่งเราก็ดำเนินการแบบนี้มาโดยตลอด ต่อมา รัฐบาลยกระดับความเข้มข้นคือ ทุกคนต้องเข้าสู่การควบคุมตัว ในสถานที่ ที่รัฐกำหนด
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มี 3 เรื่อง เรื่องแรกสถานการณ์การแพร่ระบาด แม้ว่าตอนนี้เราควบคมให้ผู้ป่วยรายใหม่เหลือ 2 หลัก ถ้าสังเกตจำนวนผู้ป่วยใหม่ จะเป็นผู้ที่เดินทางจากต่างชาติ 2. ทำไมต้องกัก ปชช.ที่เดินทางกลับมา ปัจจุบัน เราพบมีการระบาดทั่วโลก ประเทศที่พบการระบาดมากเดิมเอเชีย ขยับไปเป็นอเมริกา และยุโรป ดังนั้นรัฐบาลจึงเพิ่มความเข้มข้น ให้มีการกักกันในพื้นที่ ที่รัฐกำหนด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนโดยรวมและญาติพี่น้องคนที่เดินทางจากต่างประเทศ 3. คนที่ถูกกักคือผู้มีความเสี่ยง คนที่เป็นไข้ ถูกแยกออกมาแล้ว แต่คนที่ให้ขึ้นรถรวมได้ คือคนที่ไม่มีไข้ แต่ต้องกักตัวเพื่อเฝ้าระวัง ซึ่งเราจะตรวจท่าน โดยไม่คิดมูลค่า หากป่วยก็รักษาฟรี เราทำก็เพื่อความปลอดภัยของท่านและครอบครัวท่านเอง
พล.ต.ท. สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.ตม. ได้กล่าวว่า สำหรับท่านที่มาจากเกาหลี เที่ยวบินเกาหลีจากเมื่อวานเที่ยวบินที่ KE 651 มีผู้โดยสาร 213 คน ก็ไปกักตัวที่สัตหีบ ก็ได้รับการดูแลจากกองทัพเรือ จะมีปัญหากรณีที่ 5 ไฟลท์ ที่มาจากญี่ปุ่น 3 ไฟลท์ สิงคโป 1 ไฟลท์ จากาต้า 1 ไฟลท์ รวมผู้โดยสารทั้งหมด 158 คนที่ไม่ยอมกักตัว ประเด็นนี้ส่วนใหญ่มาจากทางยุโรปหรือเมริกา ซึ่งเป็นนักเรียนไทยไปเรียนทุน และกลับเข้ามา ทางการก็พยายามชี้แจงแล้วว่าจะต้องถูกกักเพราะว่าจากสถิติที่ทางกระทรวงสาธารณสุขและทางรัฐบาลประชุมกัน คนที่มีพาหะนำเข้าเชื้อส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นเราต้องร่วมมือกันเพราะเชื้อนั้นมันเป็นมหันตภัยโรคในประเทศไทยไม่เคยเกิด เพราะฉะนั้นคุณต้องไม่เห็นแก่ตัว แม้ว่าจะมีใบรับรองแพทย์มาก็ตามแต่ระหว่างเดินทางมา 6 ชั่วโมงไปแตะต้องเชื้ออะไรมาบ้างก็ไม่รู้ กลับไปบ้านก็ไปติดที่บ้านมันก็ขยายเหมือนที่สนามมวย ทางการเราหวังดีเราไม่ได้จับกุมไม่ได้คุมขังให้อยู่อย่างสบายเล่นเน็ตอะไรก็ได้ แถมมีคุณหมอดูแลรักษา ตรวจร่างกายอีก เพราะนั้นเป็นมาตรการของทางรัฐบาลที่ต้องการทำตรงนี้เพราะต้องการหยุดยั้งมันให้ได้เจ้าหน้าที่เราทำงานหนัก เพราะฉะนั้นทุกคนมีอัตราเสี่ยงต้องให้ความร่วมมือ วันนี้ถ้าถึง 6 โมงเย็นคนที่ออกไป 158 คน และทราบว่าขณะนี้มารายงานตัวแล้วกว่า 40 คน ถ้าหกโมงเย็นแล้วไม่มาเราจะดำเนินคดีตามกฎหมายและจะเปิดเผยรายชื่อผู้โดยสารเพื่อให้สังคมรับรู้ว่าคุณไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ถ้าจะฟ้องก็มาฟ้องผมได้เลย ผมมีรายชื่อทั้งหมดอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องเด็ดขาด เพราะมันไปแพร่ขยาย เพราะรายชื่อนั้นมีไปเกือบ 20 จังหวัด ประกอบด้วยกรุงเทพ 44 คน นนทบุรี 10 คน ชลบุรี 8 คน อุบลราชธานี 5 คน ปทุมธานี 7 คน สมุทรปราการ 4 คน ขอนแก่น 4 คน ระยอง 4 คน ร้อยเอ็ด 4 คน เชียงใหม่ 4 คน ราชบุรี 4 คน สงขลา 3 คน มหาสารคาม 3 คน เชียงราย 3 คน นครปฐม 3 คน นครราชสีมา 3 คน นครสวรรค์ 3 คน บุรีรัมย์ 3 คน ยโสธร 2 คน สมุทรสาคร 2 คน และปราจีนบุรี 2 คน เพราะฉะนั้นอย่าเห็นแก่ตัว และภายในหกโมงเย็นของวันนี้ยังไม่มารายงานตัวเราต้องดำเนินคดีตามกฎหมายเราต้องใช้ยาแรงเพื่อหยุดยั้งเชื้อดังกล่าวให้ได้ และถ้าใครไม่มีตนจะเปิดเผยชื่อตนจะรับผิดชอบเอง เพราะในเรื่องทุกคนทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เพราะคุณไม่มีความรับผิดชอบ คุณต้องปฏิบัติการตามคำแนะนำหน่วยงานราชการ และต้องฝากถึง มือ เกรียน คีย์บอร์ด จะโพสต์อะไร ก็ขอให้ดูความเป็นจริงด้วย
ขณะที่นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ฝากประชาสัมพันธ์ ญาติจะเดินทางมารับบุตรหลาน ขอชี้แจงว่า ท่านไม่ต้องมา เพราะมาก็ไม่ได้พบลูกหลานหรือญาติให้ติดต่อแจ้งกันทางโทรศัพท์