รีเซต

SAPPE ดื่มสุขภาพแรง เล็งควบกิจการต่อยอด

SAPPE ดื่มสุขภาพแรง เล็งควบกิจการต่อยอด
ทันหุ้น
10 กันยายน 2563 ( 08:45 )
86
SAPPE ดื่มสุขภาพแรง เล็งควบกิจการต่อยอด

ทันหุ้น – สู้โควิด –SAPPE ดันยอดขายสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม Functional Drinks เติบโตในอัตราเลข สองหลัก รุกทำตลาด-ออกสินค้าใหม่ใหม่ต่อเนื่อง เล็งอัพฐานสินค้ากลุ่มสแน็กเพิ่มขึ้น ย้ำรายได้ปีนี้ใกล้เคียงปีก่อน 3.38 พันล้านบาท มองหาโอกาสในการเข้าไปควบรวมกิจการ (M&A) ใหม่ๆ เสริมแกร่งนางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า บริษัทมองว่าปัจจุบันธุรกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2563หลังหลายประเทศได้มีการคลายล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลให้คำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ในส่วนต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่ม Functional Drinks ที่เติบโตในอัตราเลข 2 หลัก (Double-digit Growth) เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคตระหนักถึงสุขภาพและการดูแลร่างกาย จึงคัดสรรอาหารและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มขึ้น จึงคาดผลงานในไตรมาส 3/2563น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 2/2563

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ SAPPE แบ่งเป็น การผลิตสินค้าและส่งออกไปขายในต่างประเทศประมาณ 60%, ดำเนินการจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าในไทยอีก 40%ซึ่งหากจำแนกรายได้จากลักษณะของสินค้าแล้วนั้นจะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มราว 95%, อาหารทานเล่น (สแน็ค) อีกราว 5%หั่นภาษีน้ำตาลหนุนสำหรับผลประกอบการปี 2563 บริษัทยังคงเป้ารายได้ไว้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 3.38 พันล้านบาท แม้ในช่วงครึ่งแรกปีนี้ธุรกิจจะมีรายได้เพียง 1.56 พันล้านบาท แต่เชื่อจากทิศทางออเดอร์ทั้งในและต่างประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม

 

โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ SAPPE จะทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่องอีก 4-5 รายการ และจากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาน่าจะช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมธุรกิจเป็นไปตามที่วางไว้นอกจากนี้ การที่รัฐบาลปรับลดภาษีสรรพสามิต (Excise Tax) เหลือ 3% จากเดิม 10% ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมานั้นมองว่าน่าจะเป็นผลดีต่อธุรกิจและน่าจะทำให้ต้นทุนสำหรับสินค้า (COG) เฉลี่ยลดลงมากกว่า 1%ประกอบกับแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และการบริหารจัดการควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น*เล็งควบรวมกิจการ“ไม่เพียงเท่านั้นเราเองยังมองหาโอกาสในการเข้าไปควบรวมกิจการ (M&A) ใหม่ๆ เพิ่มเติม อีกทั้งยังมีแนวทางขยายฐานสินค้าในกลุ่มสแน็คให้มากขึ้น โดยคาดในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2564-2566) อาจจะได้เห็นสัดส่วนรายได้จากสินค้ากลุ่มดังกล่าวขยับเพิ่มเป็นอยู่ที่ระดับ 10%” นางสาวปิยจิต กล่าวบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SAPPE ว่าแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 24.00 บาท มองครึ่งหลังฟื้นแรงทั้งในส่วนของยอดขายดีขึ้นทั้งจากในและต่างประเทศ

 

โดยเฉพาะตลาดในประเทศคาดเติบโต Double Digit จาก Function Drink หนุนโดยจากผู้บริโภคที่หันมาตระหนักเรื่องสุขภาพมากขึ้น และการเข้าไปในตลาด Mass มากขึ้นทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายเหมาะกับกำลังซื้อที่อ่อนตัวในปัจจุบันสำหรับเครื่องดื่ม B’lue ทำตลาดร่วมกับพาร์ทเนอร์ผ่านเกมส์ออนไลน์ และได้สิทธิ์จำหน่ายเพิ่มในประเทศเกาหลีใต้ ลาว และกัมพูชา คาดหนุนส่งออกมากขึ้น ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้คาดน่าจะช่วยผลักดันให้ Margin ปรับตัวดีกว่าคาดโดยจาก U-Rate ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับลดภาษีสรรพสามิต (Excise tax) เหลือ 3% จากเดิม 10% ตั้งแต่ 9 กรกฎาคม 2563 และแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ทางฝ่ายวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรปี 2563 เพิ่มขึ้น 8% เป็น 376 ล้านบาท และมองปีหน้ากำไรคงเติบโต่เนื่องอีก 15.4%เพื่อตอบคำสั่งซื้อที่ดีขึ้นและการควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าเดิม จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง