รีเซต

[รีวิวเกม] Double Dragon Gaiden: Rise Of The Dragons ตำนานเกมต่อยตีภาคใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม

[รีวิวเกม] Double Dragon Gaiden: Rise Of The Dragons ตำนานเกมต่อยตีภาคใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม
แบไต๋
22 สิงหาคม 2566 ( 01:45 )
157

เชื่อว่าเด็กในยุค 80S และ 90S ต้องรู้จักเกม Double Dragon เพราะมันเป็นหนึ่งในตำนานเกมแนวต่อยตีที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และนอกจากวงการเกมแล้วมันยังเคยถูกสร้างเป็นหนังและนับเป็นเรื่องที่ 2 ต่อจาก Super Mario Bros. ที่ได้ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ด้วย

โดย Double Dragon ต้นฉบับมาในรูปแบบเกมอาเขตเปิดให้เล่นในปี 1987 แต่เวอร์ชันที่โด่งดังที่สุดคือภาค Famicom ที่วางขายในปี 1988 และมีการสร้างภาคต่อมาตลอด แต่ก็ไม่เคยฉีกจากรูปแบบต่อยตีแนว Beat ’em up และล่าสุดมันจัดเต็มเพิ่มความคลาสสิกด้วยการใช้กราฟิกแบบพิกเซลในชื่อ Double Dragon Gaiden: Rise Of The Dragons วางขายบน Nintendo Switch, PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X รวมทั้ง Series S, Xbox One และ PC

ส่วนเรื่องราวในเกมจะเกิดขึ้นหลังจากสงครามนิวเคลียร์ที่เกิดในปี 199X ที่ได้ทำลายล้างมหานครนิวยอร์ก และทำให้มันกลายเป็นดินแดนเถื่อนที่ชาวเมืองต้องต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด และเมืองถูกปกครองโดยแก๊งอาชญากรที่แบ่งเมืองออกเป็นส่วน แต่แล้วก็มีฮีโร 2 พี่น้องนาม Billy และ Jimmy จับมือกับเพื่อน ๆ เพื่อขับไล่พวกอันธพาลออกจากเมือง

กราฟิกแบบพิกเซลย้อนยุคที่ดูดี

ในเมื่อเกม Double Dragon Gaiden: Rise Of The Dragons มาในรูปแบบคลาสสิกทำให้ทีมงานเลือกใช้กราฟิกแบบพิกเซล แต่ก็ไม่ได้ย้อนไกลไปยุค 8Bit มันดูดีกว่านั้นมาก โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด ตัวละครในเกมมีสัดส่วนเหมือนการ์ตูนทำให้ส่วนหัวดูโตกว่าปรกติ แต่ก็ไม่ถึงระดับ SD แบบการ์ตูนสำหรับเด็กโดยรวมดูดีและไม่เสียความคลาสสิก

ส่วนกราฟิกของฉากก็มาแบบเดียวกันที่ใช้พิกเซลเรียงร้อยเป็นฉากที่ดูย้อนยุค แต่ที่แตกต่างคือความกว้างของฉากที่เพิ่มเข้ามารวมทั้งมีความซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย และยังมีการใส่คัตซีนที่เป็นภาพนิ่งเข้ามาเล่าเรื่องด้วย ส่วนเพลงประกอบไม่ได้มาแบบ 8Bit หรือย้อนยุคมีการใส่ซาวด์ดนตรียุคใหม่เข้าไปผสมผสานได้ลงตัว แถมยังมีการเอาเพลงธีมเดิม ๆ ของซีรีส์ Double Dragon มาแต่งใหม่แล้วใส่มาในเกมด้วย

เกมเพลย์ต่อยตีแบบเดิมเพิ่มเติมความลื่นไหล

รูปแบบการเล่นหลัก ๆ เนื้อแท้ของมันยังคงเป็น Beat ’em up ต่อยตีศัตรูให้หมดก็ผ่านด่านเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน โดยผู้เล่นจะเลือกตัวละครได้ 4 ตัวก่อนที่จะมีความสามารถแตกต่างกันที่มีทั้ง Billy, Jimmy, Marian และ Uncle Matin ซึ่งแต่ละตัวละครจะมีความสามารถแตกต่างกัน และยังปลดล็อกเพิ่มได้อีก 9 ตัว ถือว่าเยอะที่สุดในซีรีส์ Double Dragon กันเลย

ส่วนระบบการต่อสู้จะเรียบง่ายเน้นการต่อยตีกดปุ่มเพื่อทำคอมโบ รวมทั้งการกดท่าไม้ตายพิเศษที่ง่ายดายเพราะใช้แค่ปุ่มเดียว แต่จะใช้ได้จำกัดต้องเก็บค่าพลังใหม่ทุกครั้งที่ใช้งาน และยังมาพร้อมกับความแตกต่างของท่าไม้ตายของแต่ละตัวละคร และที่โดดเด่นมาก ๆ คือบางตัวใช้ปืนได้ด้วย ทำให้มันดูฉีกจากภาคก่อนหน้านี้แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นเกมยิง อีกส่วนของความโดดเด่นคือฉากในเกมที่ต้องมีการกระโดดไปตามพื้นผิวด้วย แต่มันก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไรเพราะมีมาตั้งแต่ภาคแรก ๆ แล้ว

มีระบบเก็บเงินเพื่อซื้อไอเทมในเกม

ความโดดเด่นของ Double Dragon Gaiden: Rise Of The Dragons คือระบบอัปเกรดตัวละครที่ใส่เข้ามา แม้จะไม่ได้เยอะจนเปลี่ยนเป็นแนวแอ็กชัน RPG แต่ก็มีมาให้เพิ่มความสามารถของตัวละครได้มากพอตัว โดยทุกอย่างในเกมจะขึ้นอยู่กับระบบเงิน Token ที่จะเก็บได้ในเกมจากการต่อสู้กับศัตรูมาปลดล็อกสิ่งของ และเพิ่มความสามารถรวมทั้งระบบของเกมได้ด้วย เพราะเงินสามารถนำมาใช้ซื้อ Continue ที่ให้มาค่อนข้างจำกัดได้ด้วย

และการอัปเกรดตัวละครถือว่าจำเป็นอย่างมากเพราะตัวเกมไม่ง่าย ผู้สร้างดูเหมือนจะเน้นความโหดแบบจัดเต็มแบบเกมยุคใหม่ใช้กันทำให้ศัตรูธรรมดาก็อัดเราตายได้ง่าย ๆ เพราะมันทั้งฉลาดสามารถลอบเข้าโจมตีด้านหลังหรือใช้อาวุธโจมตีเรา ไม่ได้เดินโง่ ๆ เข้ามาเราอัด แถมบอสก็จัดเต็มที่มีมาพร้อมอาวุธสุดโหดเช่นปืนกล หรือใช้ท่าไม้ตายเทพ ๆ ได้หลายท่าทำให้เรารับมือได้ลำบาก

และอีกความโดดเด่นที่ต้องมีอยู่แล้วคือระบบการเล่น 2 คนพร้อมกันในรูปแบบ Co-op ที่ยังคงทำหน้าที่ได้ดี ช่วยให้การเล่นสนุกขึ้นแต่น่าเสียดายที่มันไม่สามารถเล่นได้ 4 คนพร้อมกันได้ เพราะในยุคนี้มีเกมแนว Beat ’em up หลายเกมเล่นได้พร้อมกัน 4 คนแล้ว และอีกส่วนที่น่าจะมีคือการเล่นแบบออนไลน์แบบช่วยกันเล่นที่ผู้สร้างลืมใส่เข้ามา

การกลับมาของตำนานเกมต่อยตี Double Dragon Gaiden: Rise Of The Dragons ถือว่าทำออกมาได้ดี แม้จะมีบางส่วนที่เปลี่ยนไปเช่นระบบฟาร์มเงินเพื่อนำมาปลดล็อกหรืออัปเกรดความสามารถของตัวละคร ที่อาจจะทำให้การเล่นติดขัดไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เน้นเดินลุยอย่างเดียว แต่หากมองว่ามันต้องเปลี่ยนเพื่อให้ระบบการเล่นทันสมัยมากขึ้นก็ถือว่าเป็นแนวทางที่ดี ใครชอบแนวต่อยตีในตำนานจะลองไปหามาเล่นก็ไม่น่าทำให้ผิดหวัง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง