ตรังพบคลัสเตอร์ใหม่ ติดเชื้อแล้วเพียบ กักตัวกลุ่มเสี่ยง 100 ครัวเรือน
วันนี้( 1 ส.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบคลัสเตอร์ใหม่ใน จ.ตรัง หลังมีลูกหลานชาวบ้านในพื้นที่ ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ รายหนึ่งเดินทางกลับจากเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่ได้กักตัวอยู่กับบ้าน ทำให้นำเชื้อเข้ามาแพร่กระจายเป็นวงกว้างเกิดขึ้นแล้วในหลายตำบลของ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง
โดยเริ่มจาก ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้เดินทางกลับคนดังกล่าว โดยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 30 ราย และล่าสุดเชื้อได้แพร่กระจายเข้าสู่คนในพื้นที่ ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อ ทำให้ขณะนี้ในพื้นที่หมู่ 2 ต.วังมะปรางเหนือ มีผู้ติดเชื้อแล้ว จำนวน 32 ราย โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกจำนวนมาก ต้องนำตัวไปกักกันใน LQ ขณะเดียวกันยังมีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน รอการ Swab ตรวจหาเชื้อซ้ำอีกประมาณ 100 ครัวเรือน ทำให้ทางผู้นำชุมชน นำโดยนายประดิษฐ์ สุขเสน กำนัน ต.วังมะปรางเหนือ ผู้ใหญ่บ้าน อสม. รพ.สต.ต.วังมะปรางเหนือ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และผู้นำชุมชน ต้องเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน ทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก
ขณะเดียวกันได้เข้มมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ ไม่ให้ออกจากหมู่ที่ 2 ไปยังหมู่บ้านและตำบลอื่นๆพื้นที่ใกล้เคียงอย่างแน่นหนาด้วยกันเปิดมาตรการ “กักหมู่บ้าน” เป็นเวลา 14 วัน เช่นเดียวกับการกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงติดเชื้อ หรืออาจจะใช้เวลามากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของเชื้อในพื้นที่ โดยการร่วมกันตั้งจุดตรวจ จุดสกัดเส้นทางเข้า - ออก หมู่บ้าน ที่บริเวณป้อมจุดตรวจประจำหมู่บ้าน หมู่ 8 ต.วังมะปรางเหนือ ตลอด 24 ชม. เพื่อกักตัวเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงไม่ให้ออกจากบ้านในระยะกักตัวนี้ และป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปในหมู่บ้าน ขณะเดียวกันในพื้นที่เส้นทางรอยต่อระหว่างหมู่บ้านอื่นๆ รวมทั้งเส้นทางรอยต่อระหว่างตำบล ได้มีการนำท่อซีเมนต์ไปปิดเส้นทางไม่ให้มีการเดินทางสัญจรไปมา รวมจำนวน 3 จุด ทั้งนี้ต่างได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างดี ที่ต้องการจะควบคุมเชื้อไม่ให้แพร่กระจายออกสู่สังคมภายนอก
โดยนายประดิษฐ์ สุขเสน กำนัน ต.วังมะปรางเหนือ กล่าวว่า ทางผู้นำได้หารือกันแล้ว จึงได้งัดมาตรการ “กักหมู่บ้าน” เช่นเดียวกับการกักตัวกลุ่มเสี่ยงที่มีอยู่ประมาณ 100 ครัวเรือน เป็นเวลา 14 วัน หรืออาจจะมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพื่อต้องการจะระงับยับยั้งเชื้อไม่ให้แพร่กระจายไปติดลูกบ้านในหมู่บ้านอื่น ทั้งคนในไม่ให้ออกและคนภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าไปในพื้นที่
ระหว่างนี้ทางผู้นำก็จะทำถุงยังชีพแจกให้ทุกครัวเรือน แต่หากควบคุมอยู่ และไม่เกิดความเสี่ยงแล้วก็จะรีบเปิดเส้นทางให้ชาวบ้านใช้ได้ปกติโดยเร็ว
ส่วนเส้นทางรอยต่อระหว่างตำบล ได้ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่นั้นๆให้ช่วยตั้งจุดตรวจคัดกรองอีกชั้นหนึ่ง หวั่นจะมีชาวบ้านที่อาจจะหลุดรอดออกไปนำเชื้อเข้าไปได้ ซึ่งทุกหมู่บ้านก็ยินดีป้องกันพื้นที่ตนเองอย่างแน่นหนา