รีเซต

“ญี่ปุ่นพินาศ” แผ่นดินไหวรับปีใหม่ "วงแหวนแห่งไฟ" จุดหายนะภัยพิบัติ

“ญี่ปุ่นพินาศ” แผ่นดินไหวรับปีใหม่ "วงแหวนแห่งไฟ" จุดหายนะภัยพิบัติ
TNN ช่อง16
11 มกราคม 2567 ( 16:00 )
75

กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ตั้งชื่อแผ่นดินไหวครั้งนี้อย่างเป็นทางการว่า แผ่นดินไหวคาบสมุทรโนโตะปี 2024  แผ่นดินไหวเกิดเมื่อเวลาประมาณ16.10 น. ตามเวลาท้องถิ่นหรือตรงกับเวลา     14.10 น. ตามเวลาในไทย ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ ศูนย์กลางอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดอิชิกาวะ พร้อมออกคำเตือนอาจเกิดคลื่นยักษ์ หรือ สึนามิสูง 3-5 เมตร  ภายหลังคำเตือนเพียง 10 นาที  มีรายงานสึนามิซัดชายฝั่งครั้งแรกความสูงประมาณ  1 เมตรที่ท่าเรือของเมืองวาจิมะ จังหวัดอิชิกาวะ  ส่วนที่จังหวัดโตยามะ  เกิดสึนามิสูง 80 เซนติเมตร 



เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้วของความสูญเสียแต่ทางการญี่ปุ่นยังคงไม่ยุติความพยามยามในการค้นหาผู้รอดชีวิต ท่ามกลางอุปสรรคอากาศหนาว หิมะตกหนัก และฝนตก ทำให้มีความกังวล   อาคารและดินถล่ม และเมื่อ 10 ม.ค.ยังเกิดแผ่นดินไหว(อาฟเตอร์ช็อก) บริเวณจุดที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งแรก ทำให้เกิดคลื่นทะเลรุนแรงแต่ไม่มีการเตือนคลื่นสึนามิ  ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเกิน 200 คน เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 8 ปี  



มีความกังวลเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัดอิชิกาวะ ที่เป็นศูนย์กกลางแผ่นดินไหว โฮคุริกุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ (Hokuriku Electric Power)  ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัด อิชิกาวะ  เปิดเผยว่า เกิดคลื่นสึนามิสูง 2 ครั้งหลังแผ่นดินไหวเมื่อ 1 ม.ค. ครั้งแรกสูง 1 เมตร ส่วนครั้งที่ 2 มีคลื่นสึนามิสูงถึง 3 เมตรเกิดขึ้นห่างจากครั้งแรกในเวลา  17.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น          แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยเพราะโรงงานสร้างสูงจากระดับน้ำทะเล 11 เมตร และมีกำแพงกันคลื่นสูง 4 เมตร   หลังเหตุการณ์สงบได้ตรวจสอบพบความเสียหายต่อองค์ประกอบบางส่วนของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย และสายส่งไฟฟ้า แต่ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงงาน รวมถึงเครื่องปฏิกรณ์หมายเลข 1 และหมายเลข 2 ได้รับคำสั่งให้หยุดทำงานก่อนเกิดแผ่นดินไหวแล้ว



ปัจจุบันญี่ปุ่นมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 12 แห่งที่กลับมาเปิดอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ปี 2554 ในจำนวนนี้ 5 แห่งได้รับอนุญาตให้เริ่มออนไลน์อีกครั้ง และอยู่ระหว่างการตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะเริ่มเดินเครื่องใหม่ ส่วนเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีก 10 เครื่องยังอยู่ภายใต้การตรวจสอบว่าจะสามารถกลับมาเปิดใช้งานได้อีกครั้งหรือไม่  


          

เมื่อ 13 ปีที่แล้ว หรือ 11 มี.ค. 2554 ญี่ปุ่นเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงติดอันดับ 1 ใน 5 เหตุแผ่นดินไหวทรงพลังที่สุดของโลกและพบว่า ทั้ง 5 ครั้งเกิดในบริเวณวงแหวนแห่งไฟ  (The Ring of fire)” 

-อันดับ 1 เมื่อ 22 พ.ค.  2503 แผ่นดินไหวทรงพลังที่สุดของโลกขนาด 9.5 ที่เมืองบัลดิเบีย( Valdivia) ของชิลี และสั่นสะเทือนนาน 11 นาที เกิดคลื่นยักษ์สึนามิแผ่ไปทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก กระทบต่อ ชิลีตอนใต้ ฮาวาย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และหมู่เกาะอะลูเชียน  มีผู้เสียชีวิตมากถึง 6,000 คน

-อันดับที่ 2 เมื่อ 27 มี.ค. 2507  แผ่นดินไหว ที่อลาสกา สหรัฐอเมริกา ความรุนแรงขนาด  9.2  ตามมาด้วยสึนามิและมีรอยแยกดินถล่ม ทำลายล้างสิ่งปลูกสร้างเสียหายเป็นวงกว้าง  มีผู้เสียชีวิต 131 คน 

-อันดับที่ 3 เกิดเมื่อ 26 ธ.ค.  2547 เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย เผชิญแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 9.1      ทำให้เกิดคลื่นสึนามิครั้งใหญ่ในมหาสมุทรอินเดีย คลื่นสึนามิได้ขยายวงซัดชายฝั่งของ 14 ประเทศ รวมไทยด้วย และสึนามิยักษ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 228,000 คน

-อันดับที่ 4 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 เมื่อ 4 พ.ย. 2495 บริเวณชายฝั่งของคาบสมุทรคัมซัตคา (Kamchatka) ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ทำให้เกิดสึนามิในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ไม่มีรายงานบันทึกความเสียหาย

-อันดับที่ 5  แผ่นดินไหวรุนแรงในญี่ปุ่น 11 มี.ค. 2554  ขนาด  9.0นาน 6  นาทีศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ (โทโฮกุ) ของคาบสมุทรโอชิกะ ลึกลงไปใต้พื้นดิน 32 กิโลเมตร  เป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมีผู้เสียชีวิตเกือบ 20,000 คน   เกิดคลื่นยักษ์   สึนามิสร้างความเสียหายตามชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของหมู่เกาะตอนเหนือของญี่ปุ่น แผ่นดินไหวยังทำให้กัมมันตภาพรังสีรั่วไหลปนกับระบบหล่อเย็นของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ  (Fukushima Daiichi nuclear Power plant) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับพันคน



"วงแหวนแห่งไฟ"  มีลักษณะเป็นเส้นเกือกม้า  ยาวประมาณ 40,000 กิโลเมตร วางตัวพาดผ่านแนวร่องมหาสมุทร แนวภูเขาไฟ และขอบแผ่นเปลือกโลก ตั้งแต่ทวีปออสเตรเลีย ทวีปเอเชีย ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปอเมริกาใต้  ครอบคลุม 31 ประเทศ  ซึ่งแผ่นธรณีมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา ในลักษณะรูปแบบที่แตกต่างกัน มีทั้งชนกันและแยกออกจากกัน จึงเป็นสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิด บ่อยครั้ง "วงแหวนแห่งไฟ" นอกจากจะเป็นแนวที่เกิดแผ่นดินไหวจำนวนมากแล้ว ยังเป็นแนวของ "ภูเขาไฟ" ด้วย โดยบริเวณนี้มี "ภูเขาไฟ" ตั้งอยู่ถึง 452 ลูก และคิดเป็นร้อยละ 75 ของภูเขาไฟทั่วโลกที่ยังคุกรุ่น 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง