BCPรุกหนักธุรกิจNonOil ขยายฐานอนาคตแกร่ง
#BCP #ทันหุ้น – BCP เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจ Non Oilลดความผันผวนทางธุรกิจในระยะยาว ลั่นพร้อมให้ความร่วมมือรัฐบาล ลดภาระค่าครองชีพประชาชน ย้ำราคาน้ำมันและค่าการกลั่นจะกลับมาเคลื่อนไหวสอดคล้องความต้องการในตลาดโลก ด้านโบรกคาดผลงานโค้งสองได้รับอานิสงส์ราคาน้ำมัน ก๊าซในยุโรปเร่งตัวสูง การลงทุนในธุรกิจไฟแนนซ์เป็นอัพไซด์ต่อราคาพื้นฐานในอนาคต
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือBCP กล่าวถึงกระแสข่าวที่กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการลดค่าการกลั่นน้ำมันลงเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของนโยบายภาครัฐ ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการชั่วคราว
พร้อมกันนี้มองว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และค่าการกลั่นที่เร่งตัวขึ้นในปัจจุบันเกิดจากปัจจัย “เฉพาะ” ทั้งสถาน
การณ์ทางรัฐภูมิศาสตร์ระหว่างยูเครน – รัสเซีย รวมถึงการที่จีนสั่งห้ามส่งออกน้ำมันดีเซลออกนอกประเทศ ดังนั้น เมื่อสถานการณ์ดังกล่าวสิ้นสุดลง ราคาน้ำมัน – ค่าการกลั่นจะค่อยๆ ปรับตัวลง และกลับมาเคลื่อนไหวสอดคล้องกับ “กำลังผลิต” และ “ความต้องการใช้”
“กรณีค่าการกลั่นคงต้องรอการพิจารณาจากภาครัฐว่าจะพิจารณาอย่างไร เบื้องต้นรัฐบาลของแต่ละประเทศสามารถกำหนดนโยบาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งทางบริษัทก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ สำหรับราคาน้ำมันทั้งปีนี้ก็น่าจะยังคงทรงตัวสูง และผันผวนตามสถานการณ์ในต่างประเทศที่ยังคงไม่มีข้อยุติ”
กระจายการลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non Oil) อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจพลังงานทดแทน ทั้งจากพลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานน้ำ, และพลังงานลม รวมทั้งการขยายไปสู่พลังงานทดแทนอื่น ๆ ผ่านบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ผู้ผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล
การลงทุนในธุรกิจ “ต้นน้ำ” ผ่านทาง OKEA AS (OKEA) ผู้ดำเนินการพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในแหล่ง Draugen Field และ Gjøa Field ในประเทศนอร์เวย์ ที่ล่าสุดได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแหล่งปิโตรเลียมในทะเลเหนือเพิ่ม 3 แหล่ง ได้แก่ แหล่ง Brage สัดส่วน 35.2%, แหล่ง Ivar Aasen สัดส่วน 6.4%, และแหล่ง Nova สัดส่วน 6%ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมในปี 2565 ของ OKEA อีกประมาณ 5 – 6 พันบาร์เรลต่อวัน
ส่วนสถานีบริการน้ำมันก็ยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเพิ่มสัดส่วนร้านค้าให้หลากหลาย รวมถึงลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทให้สามารถผลิตน้ำมันคุณภาพสูง สร้างฐานการตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
“บางจากปัจจุบันเกือบจะเป็นโฮลดิ้ง คอมพานีแล้ว เพราะกระจายการลงทุนที่หลากหลายธุรกิจทั้งพลังงาน, ธุรกิจชีวะภาพ ฯลฯ ส่วนปั๊มน้ำมัน ณ ปัจจุบันก็เป็นมากกว่าธุรกิจรีเทล ล่าสุดก็เข้าลงทุนในธุรกิจไฟแนนซ์ ซึ่งใช้ตัว BCPเองเป็นผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ก็จะเพิ่มสัดส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจ Non Oil ให้มากขึ้นเพื่อลดความผันผวน และสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคต”
โบรกแนะเก็งกำไร
นายปรินทร์ นิกรกิตติโกศล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมา หนุนจาก 1.ธุรกิจต้นน้ำ (OKEA) ได้รับอานิส่งส์จากการคว่ำบาตรรัสเซีย ฉุดราคาน้ำมัน และก๊าซในยุโรปให้เร่งตัวขึ้น, 2.ธุรกิจปั๊มน้ำมัน ได้รับประโยชน์จากการทยอยปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ส่งผลให้ค่าการตลาดมีแนวโน้มดีขึ้นเล็กน้อย, และ 3.ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ทรงตัวได้ที่ประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อบาร์เรล
ส่วนการเข้าลงทุนเพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจไฟแนนซ์ ซึ่งมี P/Eสูงกว่าธุรกิจพลังงานประมาณ 3 เท่า ถือเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้จากพันธมิตรที่แข็งแกร่ง อีกทั้งฐานลูกค้าของพันธมิตร คาดว่าจะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามราคาหุ้นได้เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จึงแนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเหมาะสม 35 บาท