ผลศึกษาล่าสุด "ธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก" หากละลายจนหมดน้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้น
ผลการศึกษาใหม่ล่าสุด การละลายของ "ธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก" หากละลายจนหมดน้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นครึ่งเมตร
มีการเผยผลการศึกษาจากโครงการสำรวจแอนตาร์กติก หรือ ขั้วโลกใต้ ภายใต้ความร่วมมือของอังกฤษ และสหรัฐ ทำการสำรวจใต้ธารน้ำแข็งทเวตส์ หรือ หรือรู้จักในอีกชื่อว่า ธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก พื้นที่อันกว้างใหญ่ทางตะวันตกของทวีปเพื่อศึกษาการละลายของมัน
ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1990 ทีมวิจัยทำการสำรวจธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก พบว่า มันค่อยๆ เคลื่อนหายไปจากแผ่นน้ำแข็งหลัก ราว 14 กิโลเมตร และพบว่า เคลื่อนออกไปเพิ่มอีก 1 กิโลเมตรต่อปี และคาดว่า จะเคลื่อนห่างจากเดิมมากขึ้นหลังจากนี้
การวิจัยครั้งใหม่ล่าสุดนี้ ได้ส่งหุ่นยนต์ Icefin หุ่นยนต์นักสมุทรศาสตร์ใต้น้ำ ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก NASA และมูลนิธิวิทยาศาสตร์นานาชาติ ร่วมกันพัฒนาขึ้นเพื่องานสำรวจมหาสมุทรที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2019
มีลักษณะเป็นแท่งยาวมีความสูงประมาณความสูงราว 3.5 เมตร มีเซ็นเซอร์ตรวจจับโมเลกุลผ่านคลื่นเสียง และกล้องบันทึกภาพ
โดยทีมวิจัยส่ง Icefin ลงไปในหลุมขนาด 20 เซนติเมตร ลึก 600 เมตร เจาะผ่านธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก ลงไปทั้งหมด 5 ครั้ง และเจอธารน้ำอุ่นไหลเวียนอยู่ด้านล่าง แต่ละลายน้อยกว่าที่คาดไว้แม้อุณหภูมิจะสูงขึ้น จึงเชื่อว่าชั้นน้ำจืดอาจเป็นฉนวนป้องกันการละลายได้
ซึ่งภาพที่หุ่นยนต์ใต้น้ำ Icefin รวบรวมไว้ พบความซับซ้อนใต้ธารน้ำแข็งมากกว่าที่คาดไว้ จากเดิมที่คิดว่ามันแบนๆ แต่มันกลับมีรอยแยกหลายรูปแบบ ซึ่งนักวิจัยจะนำข้อมูลทั้งหมดนี้ไปทำแบบจำลอง เพื่อทำนายการละลายของธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก และขยายผลไปสู่ธารน้ำแข็งอื่นๆ ทั้งหมด
ทั้งนี้ ธารน้ำแข็งวันสิ้นโลก มีขนาดใหญ่เท่าเกาะอังกฤษ เป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่เปลี่ยนแปลงเร็วที่สุดในโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นปัจจัยสำคัญในการละลายของมัน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า หากธารน้ำแข็งนี้ละลายจนหมด น้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นครึ่งเมตร
และการวิจัยครั้งใหม่นี้แสดงให้เห็นว่า การละลายเล็กน้อยของธารน้ำแข็งวันสิ้นโลกก็สามารถทำให้ธารน้ำแข็งนี้ละลายจนหมดได้ในอนาคต
ภาพจาก reuters